วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ลูกบอลการงาน

ช่วงนี้ฉันเกิดภาวะปล่อยให้ลูกบอลการงานสามสี่ลูกของฉันวิ่งกระเด็นกระดอน ต้องตามไปเก็บบ้าง เลี้ยงไว้บางลูก ละเลยบางลูก เพราะฉันยังไม่ใช่ตลกที่สามารถเลี้ยงลูกบอลสามลูกได้พร้อมๆ กันโดยไม่ตกหล่นเลย ฉันพูดแค่ลูกบอลการงานนะ แต่ถ้าเราจะเปรียบเทียบการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิตเป็นลูกบอลที่เราจะต้องดูแลไม่ให้กระเด็นกระดอน (ไปไกลจนเกินไป) เพราะลูกบอลบางลูกกระเด็นจากเราไปแล้ว ไปเลย ไม่กลับมา ส่วนบางลูกก็มาจั้ง มาจัง ทั้งๆ ที่ยังไม่อยากให้มา และอยากได้กระเด็นไปให้ไกลอีกสักนิด

ปกติฉันเป็นคนจำพวกที่ไม่อยากใส่อะไรให้ชีวิตมากมายนัก ถ้าเปรียบ(อีกแล้ว)ว่าเป็นภาชนะที่ใส่ลูกบอลซึ่งแต่ละลูกเป็นส่วนต่างๆ ที่สำคัญของชีวิต ฉันจะใส่แค่ไม่กี่ลูก ให้เหลือพื้นที่ว่างสำหรับเติมเต็มอีกเยอะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นหินขนาดใหญ่ ขนาดย่อม ทราย หรือกระทั่งน้ำ แต่ช่วงนี้ รู้สึกว่าชีวิตที่เรียบง่ายของฉันดูจะมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาสร้างสีสันอยู่ไม่น้อย เมื่อมาพร้อมสีสันก็ก่อความระคายเคืองให้ก้อนหินและวัสดุวัตถุอื่นที่อยู่ด้วยกัน แต่ฉันก็รู้ว่ามันจะอยู่กับฉันไม่นานและมีเหตุผลที่ฉันเลือกทำอย่างที่ทำ

การทำงานทุกอย่างมีปัญหาให้ต้องแก้ไข บางเรื่องสร้างความรู้สึกลึกซึ้งแตกต่าง ฉันกลับมาทบทวนลำดับความสำคัญที่ฉันให้กับสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ในตอนนี้ และเลือกที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่สมบูรณ์ เพื่อจะได้จัดสรรเวลาไปทำสิ่งอื่นที่มีลำดับความสำคัญไม่แพ้กัน ลำดับความสำคัญในชีวิตของแต่ละคนต่างกัน อะไรที่ฉันไปรับปากชาวบ้านไว้แล้ว ดูจะกลายเป็นสิ่งหลักที่ฉันต้องทำไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ยิ่งได้รับรู้แผนการล่วงหน้า แต่เมื่อสิ่งอื่นซึ่งมีลำดับความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ออกจะมากกว่าด้วยซ้ำ เกิดความล่าช้า ไม่เป็นไปตามกำหนดการที่ฉันได้วางแผนไว้แล้ว ก็ต้องเลือกที่จะสร้างความไม่สมบูรณ์ให้กับทั้งสองสามสิ่งอย่างช่วยไม่ได้ และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันไม่ชอบใจจริงๆ

การที่สิ่งต่างๆ เป็นไปตามแผนการที่กำหนดทั้งหมดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบ แปลว่า เป็นไปไม่ได้ ขอให้ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบที่สุดเป็นอันใช้ได้ การที่ฉันต้องอุดรอยรั่วของงานที่ฉันเห็นจนเหนื่อยก็ทำให้เกิดความกดดัน และเมื่อพบว่าการที่ฉันตั้งใจทำสิ่งต่างๆ อย่างเต็มที่ แต่คนที่เป็นสาเหตุให้ฉันเลือกรับงานกลับดูเหมือนไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ฉันทำ ฉันก็รู้สึกว่า เอ แล้วฉันจะเหนื่อยหรือเคร่งเครียดกับสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร มันคุ้มค่าและสมควรแล้วหรือที่ฉันจะแบ่งสรรเวลาของฉันไปทำกิจกรรมนั้นๆ

ปกติแล้วการทำงานร่วมกันย่อมมีโอกาสกระทบกระทั่งกันได้มาก ยิ่งการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก เรื่องคนเป็นเรื่องที่ยากที่สุด เพราะไม่มีอะไรถูกหรือผิด เรื่องของความสัมพันธ์เป็นเรื่องของการยืดหยุ่น การปรับให้เข้ากัน ระหว่างคนที่มีความแตกต่างกันในทุกๆ เรื่อง การศึกษา ทัศนคติ รูปแบบความคิด สไตล์การทำงาน มุมมองต่อเนื้องาน เพศ นิสัย ตัวตน และอื่นๆ อีกสุดที่จะกล่าว

คนที่เคยเป็นมิตรอาจเป็นศัตรูกันได้ในพริบตาเมื่อต้องทำงานร่วมกันและไม่สามารถปรับจูนการทำงานให้สอดคล้องกันได้ ฉันก็ได้แต่หวังว่า การกระทบกระทั่งจะทำให้ต่างคนต่างถอยคนละก้าวเพื่อปรับเข้าหากันอย่างสอดคล้อง มีใช่เพื่อถอยห่าง จากหายไปไม่มาเจอกันอีก