วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

จากฝัน...อีกครั้ง

คงอดไม่ได้ที่ฉันจะบอกว่า ฉันลงมือเขียนบล้อกวันนี้เพราะอ่านบทความในบล้อกของคนๆ หนึ่ง...

ไม่ว่าบทความนั้นจะเกี่ยวเนื่องกับฉันหรือไม่ ฉันก็รวบรัดตัดความเรียบร้อยว่า มันคือฉันนี่แหละ

ช่วงนี้ ฉันไม่ค่อยทำตามที่เคยพูด เคยบอกตัวเองไว้เท่าใดนักหรอก แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ฉันสบายใจเหมือนกัน ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมฉันไม่ทำ เรื่องต่างๆ ฉันทำได้ ไม่ได้เกินความสามารถแต่อย่างใด แล้วฉันก็เก็บเอาไปฝัน

เมื่อคืนฝันว่า เอาของไปส่งที่ไปรษณีย์ ฝันครั้งนี้ละเอียดขนาดเห็นทุกขั้นตอนเหมือนฉันไปทำจริงๆ ทั้งปัญหาและการแก้ปัญหา

ฉันเคยฝันทำนองนี้หลายครั้งนะ บางเรื่องก็ทำตามฝัน บางเรื่องก็ไม่ทำมันซะอย่างงั้น

เป็นความไม่รับผิดชอบ เป็นการผลัดวันประกันพรุ่ง เป็นคนเหลวไหล เชื่อถือไม่ได้...ฉันยอมรับทุกประการโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

อันที่จริงแล้ว การทำอย่างที่ฝันดูจะง่ายกว่าฝันให้ละเอียดเหมือนที่ควรจะทำ เรื่องง่ายๆ ไม่ทำ แต่ทำเรื่องยากๆ โดยไม่รู้ตัว

จนถึงวันนี้ ฉันก็ยังไม่ทำหลายๆ เรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบ ยังรู้สึกผิดอยู่เสมอ แต่ก็ยังไม่ทำอยู่ดี เหมือนจะรอให้ถึงเวลาที่ความรู้สึกพาให้อยากทำ

ดูเป็นคนไร้เหตุผลสิ้นดี!

จะมีใครรับเหตุผลที่อยากจะบันทึกแบบข้างๆ คูๆ นี้มั้ยนะ

ทุเรศตัวเองเล็กน้อยที่ชอบอ้างคนใหญ่คนโตในประวัติศาสตร์โลก คนที่เป็นพวก davinci type แม้จะสร้างผลงานเอกมากมายแต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่ทำไปครึ่งๆ กลางๆ ด้วยรู้สึกเบื่อ หรือไปเจออะไรที่สนุกกว่า

ฉันเลือกที่จะไม่ใช้เหตุผลกดความรู้สึกแล้ว ชั่วร้ายจริงๆ ขนาดงานวันเกิดแม่ตัวเองยังไม่ไปเลย ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยนะ ฉันรู้สึกว่าฉันมีภาระที่ต้องทำอะไรเพื่อบุพการี แต่ทำยังไงก็ห่างไกลจากมาตรฐานของ "ไก่ที่เป็นหมอทั้งสอง" ไม่ว่า "อีกาหรือนกอินทรี" ตัวนี้จะปรับตัวอย่างไร ก็แปลกแตกต่างในสายตาของ"ไก่" ทั้งหลายอยู่เหมือนเดิม

ตอนนี้ฉันเลือกเป็นตัวของตัวเองเต็มขั้นและยอมรับผลทุกแง่ที่จะตามมา มีหลายคนที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงของฉันเป็นเพราะคนที่อยู่ข้างๆ จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ฉันคิดว่า ฉันเจอคนที่ยอมรับ "อีกาหรือนกอินทรี" ตัวนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นนกประเภทเดียวกันหรือนกตระกูลอื่น ค้างคาว แมลงปอ แมงเม่า มังกร คองกามาโต กบบินเวลเลส จิ้งหรีด ผีเสื้อ แมลงวัน ยุง แมลงสาป หิงห้อย แมงดา(เพิ่มรู้ว่ามันบินได้) ห่าน เป็ด นกยูง กระรอกบิน flying lemurs นกเพนกวินบิน จิ้งจกบิน ไก่บิน หรือสัตว์อื่นที่บินได้แล้วฉันยังไม่รู้จัก มันก็ทำให้ฉันได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ถูกกดทับออกมา ฉันพอใจจะมองและรอรับผลของอารมณ์ความรู้สึก ที่มักจะสุดโต่งทั้งทางสูงและทางต่ำ สร้างสรรค์ผลงานแม้ยามมืดมิด

ใครที่เกี่ยวพันกับฉันคงต้องรอ หรือไม่ก็หาทางอื่น ฉันไม่ว่าอะไรทั้งนั้น เพราะฉันรู้และได้แจ้งแล้วว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น เพียงแต่ฉันคาดว่ามันจะเกิดขึ้นหลังจากที่ฉันเคลียร์เรื่องต่างๆ เรียบร้อยแล้ว

อยากบอกไว้ ณ ที่นี้ ว่า ฉันซาบซึ้งใจ กับถ้อยคำสั้นๆ ที่บอกถึงความสัมพันธ์ที่อยากให้คงอยู่ แม้จะเกิดการจากไปบางอย่าง ขอบคุณสำหรับถ้อยคำเหล่านั้นนะเธอ

วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2553

วันคืนแห่งความฝัน

ที่เป็นวันคือฝันเวลากลางวัน ที่เป็นคืนคือฝันเวลากลางคืน เพราะไม่รู้ว่าตอนที่ฝันมาราธอนเป็นกลางวันหรือกลางคืน...

ขอไล่แต่ละฝันก่อนจะลืมหลังจากหม่ำๆ แล้วจะมาร่ายยาวเจ้าค่า ^_^

กิ่ง

ชิน

ปริม เจ่๊บี

คนเคยอยู่ข้าง คนสำคัญ

พี่แจง

น้องชาย เพื่อนเก่า

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำมั๊ย ทำไม!!

ทำไมการทำงานของฉันถึงเป็นปัญหาอยู่เสมอ...

ทำไมฉันจัดการปัญหาได้ไม่ดีเหมือนคนอื่นๆ ปัญหาฉันแปลกประหลาด หรือฉันเองที่แปลกประหลาดเอง (สงสัยจะเป็นอย่างหลัง)

ฉันนั่งนึกย้อน ตั้งแต่ทำงานครั้งแรกที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เลขาเจ้านายเกี่ยงงานที่ฉันขอให้ช่วยแล้วเธอก็ไปฟ้องคนอื่นๆ ในทีม เจ้านายโดยตรงของฉันไม่ถาม ใช้วิธีสังเกตแล้วเธอก็เลือกเอาเองว่าฉันเป็นคนยังไง อันที่จริงก็ไม่มีใครรู้ความจริง เพราะมีเพียงเลขาฯ ฉันและฟ้าดิน

หมู่นี้ฉันนึกถึงช่วงเวลาทำงานที่ต้องตรวจสอบธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ หรือที่เรียกติดปากว่า แบงค์บีบีซี ฉันเฝ้าแต่คิดว่า ฉันจะทำตัวเป็นฮีโร่ แบบแจ๊ค บาวเออร์ในซีรีย์ 24 หรือไม่ แล้วจะเกิดผลลัพธ์ใดกับฉัน ติดคุกมั้ยนะ ตอนนั้นฉันเลือกทำตามกฏ ไม่ใช่เพราะไม่กล้าเสี่ยง แต่ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือไม่ถ้าบอกกับหนังสือพิมพ์

กลับมาทำงานในบริษัทที่ประมูลงานของรัฐอยู่สองบริษัท ได้มีส่วนรู้เห็นและกระทำการที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติแต่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันยอมรับได้ เหมือนคนไม่สู้ปัญหาแล้วฉันก็ออกจากงานแบบทุบหม้อข้าว ส่วนอีกงานหนึ่งฉันลาออกเพราะเลือกทางเลือกอื่นที่น่าจะลงตัว แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากหลายๆ คน

ทำงานต่างจังหวัด และกำลังจะขยายงาน เพื่อเตรียมความพร้อม กลับเข้ากรุงเพื่อทำงานอีกงานและเพื่อเรียนปริญญาโทอีกใบ เหลวหมดทุกอย่าง แล้วก็ต้องระเห็ดหนีกลับมากรุงเทพอย่างถาวร

กลับมาทำงานในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับที่มีการประมูล ได้โอกาสที่ดี ได้ทำงานที่อยากทำ แม้จะเกิดปัญหาว่าบางช่วงไม่มีงานให้ทำ ต้องรอจังหวะเวลา แล้วก็รู้สึกผิดมากมายในใจซึ่งไม่ควรจะรู้สึก พอเจ้านายใหญ่ต้องออกไปตามมารยาท ก็เกิดการโดนลอยแพ เคว้งคว้างทั้งทีม แล้วฉันก็เลือกไปรับตำแหน่งในงานอีกส่วนงานที่ฉันสนใจ เพิ่งมารู้ว่าการมีนายที่ดูแลเราดีกว่าทำงานกับนายที่เข้าใจผิด หวังประโยชน์จากสายสัมพันธ์ของฉันและระแวงอันเนื่องมาจากไม่เข้าใจเจตนาในการทำงานของฉัน

ชีวิตเว้นวรรคแบบไม่มีจุดหมาย แล้วก็ได้กลับมาทำงานที่น่าจะเข้ากับตัวฉันมากกว่างานทั้งหมดที่เคยทำ ไม่ต้องติดกับความรู้สึกผิด อันที่จริงก็รู้สึกเป็นพักๆ จนในที่สุด ก็เลือกที่จะทำอะไรที่ไม่ขึ้นอยู่กับคนอื่น อาจจะได้ช่วยงานคนที่อยากช่วยฉันและฉันก็สามารถทำประโยชน์ให้เขาด้วย คนที่เดือดร้อนจากอะไรเหมือนๆ กันย่อมเข้าใจกันได้ดี เข้าใจแบบที่ฉันไม่คาดคิด

แล้วปัญหาเก่าที่หายไปนานก็กลับมาอีกครั้ง...

มีอยู่พักหนึ่งที่ฉันคิดว่า คนอย่างฉันคงไม่ควรจะมีคู่ ใครจะรับได้ว่าฉันทำงานในที่เที่ยว ที่ๆ คนโสดและไม่โสดมองหาและมองผู้หญิงในแง่มุม"นั้น" ฉันคิดไปคิดมาก็จะเลิกแคร์แล้ว และคนข้างๆ ฉันก็ต้องรับให้ได้ด้วย เพราะไม่ว่าฉันจะทำยังไง ก็ไม่พ้นโดนมองไม่ดี เรื่องเดิมๆ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนคน แต่ไม่เปลี่ยนสาระสำคัญ

มีบางคนเข้าใจเหมือนกัน แต่มันน้อยจริงๆ ในเมื่อคนส่วนใหญ่พอใจจะมองผู้หญิงในแง่มุม "นั้น"

ฉันเริ่มทำตัวชั่วร้ายอีกครั้ง ฉันไม่ฝืนใจ ไม่ปรับโดยที่ไม่ว่าจะปรับยังไงก็ไม่คิดว่าฉันใช้ความพยายาม ก็ในเมื่อผลลัพธ์เหมือนกัน ฉันไม่ทำให้มันเหนื่อยไม่ดีกว่าหรือ ฉันยอมแพ้แล้ว เลิกโต้แย้งด้วยเหตุผลของฉัน ยอมรับผิดเอง ถ้าสบายใจคุยได้ติดต่อได้เมื่อไหร่ค่อยทำ จะได้เข้าใจซะทีว่า ฉันน่ะเป็นคน difficult ตามศัพท์บัญญัติของเธอคนนั้น ฉันชั่วร้ายเกินไปมั้ยที่ทำให้เธอนอนไม่หลับหลายวัน เที่ยวถามคนนั้นคนนี้จนทำให้คนใกล้ตัวกังวลและต้องมารับรู้เรื่องของฉันไปด้วย แล้วฉันก็ปฏิบัติไม่เหมาะสมกับคนที่ฉันต้องพึ่งพา ยังไงก็อกตัญญูอยู่ดี จะคิดให้มากไปใย

วันนี้มีพี่ที่เคยบอกฉันว่า ไม่มีวันโกรธฉันโทรเข้ามาในวันที่ฉันเพิ่งเปิดโทรศัพท์ และนั่นเป็นสายเดียวที่รู้เบอร์ที่สองของฉัน ฉันซาบซึ้งในความเป็นห่วงที่มีให้กัน แม้ว่าคืนนี้จะไปเจอพี่พร้อมกับพี่อีกสองคน หนึ่งในนั้นเกาฝ่ามือฉันตอนจับมือ (อีกแล้ว)

ฉันควรจะบอกพี่คนดีมั้ย ควรบอกคนข้างๆ ที่ก็กังวล (จะตายแล้ว) มั้ย หรือควรจะเก็บไว้คนเดียวเหมือนเคย และจะได้ผลลัพธ์โดยไม่ต้องหวังว่าพี่คนนี้จะเข้าใจว่าที่ฉันทำตัวปกติจะแปลว่า ฉันไม่ถือโทษโกรธเคือง ให้อภัยแต่ไม่ใช่ไม่รู้

ฉันน่าจะได้ผลตอบแทนจากการทำงานในไม่ช้า...