วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ทำมั๊ย ทำไม!!

ทำไมการทำงานของฉันถึงเป็นปัญหาอยู่เสมอ...

ทำไมฉันจัดการปัญหาได้ไม่ดีเหมือนคนอื่นๆ ปัญหาฉันแปลกประหลาด หรือฉันเองที่แปลกประหลาดเอง (สงสัยจะเป็นอย่างหลัง)

ฉันนั่งนึกย้อน ตั้งแต่ทำงานครั้งแรกที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง เลขาเจ้านายเกี่ยงงานที่ฉันขอให้ช่วยแล้วเธอก็ไปฟ้องคนอื่นๆ ในทีม เจ้านายโดยตรงของฉันไม่ถาม ใช้วิธีสังเกตแล้วเธอก็เลือกเอาเองว่าฉันเป็นคนยังไง อันที่จริงก็ไม่มีใครรู้ความจริง เพราะมีเพียงเลขาฯ ฉันและฟ้าดิน

หมู่นี้ฉันนึกถึงช่วงเวลาทำงานที่ต้องตรวจสอบธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ หรือที่เรียกติดปากว่า แบงค์บีบีซี ฉันเฝ้าแต่คิดว่า ฉันจะทำตัวเป็นฮีโร่ แบบแจ๊ค บาวเออร์ในซีรีย์ 24 หรือไม่ แล้วจะเกิดผลลัพธ์ใดกับฉัน ติดคุกมั้ยนะ ตอนนั้นฉันเลือกทำตามกฏ ไม่ใช่เพราะไม่กล้าเสี่ยง แต่ไม่รู้ว่าเป็นผลดีหรือไม่ถ้าบอกกับหนังสือพิมพ์

กลับมาทำงานในบริษัทที่ประมูลงานของรัฐอยู่สองบริษัท ได้มีส่วนรู้เห็นและกระทำการที่เป็นธรรมเนียมปฏิบัติแต่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันยอมรับได้ เหมือนคนไม่สู้ปัญหาแล้วฉันก็ออกจากงานแบบทุบหม้อข้าว ส่วนอีกงานหนึ่งฉันลาออกเพราะเลือกทางเลือกอื่นที่น่าจะลงตัว แม้ว่าจะมีเสียงคัดค้านจากหลายๆ คน

ทำงานต่างจังหวัด และกำลังจะขยายงาน เพื่อเตรียมความพร้อม กลับเข้ากรุงเพื่อทำงานอีกงานและเพื่อเรียนปริญญาโทอีกใบ เหลวหมดทุกอย่าง แล้วก็ต้องระเห็ดหนีกลับมากรุงเทพอย่างถาวร

กลับมาทำงานในบริษัทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับที่มีการประมูล ได้โอกาสที่ดี ได้ทำงานที่อยากทำ แม้จะเกิดปัญหาว่าบางช่วงไม่มีงานให้ทำ ต้องรอจังหวะเวลา แล้วก็รู้สึกผิดมากมายในใจซึ่งไม่ควรจะรู้สึก พอเจ้านายใหญ่ต้องออกไปตามมารยาท ก็เกิดการโดนลอยแพ เคว้งคว้างทั้งทีม แล้วฉันก็เลือกไปรับตำแหน่งในงานอีกส่วนงานที่ฉันสนใจ เพิ่งมารู้ว่าการมีนายที่ดูแลเราดีกว่าทำงานกับนายที่เข้าใจผิด หวังประโยชน์จากสายสัมพันธ์ของฉันและระแวงอันเนื่องมาจากไม่เข้าใจเจตนาในการทำงานของฉัน

ชีวิตเว้นวรรคแบบไม่มีจุดหมาย แล้วก็ได้กลับมาทำงานที่น่าจะเข้ากับตัวฉันมากกว่างานทั้งหมดที่เคยทำ ไม่ต้องติดกับความรู้สึกผิด อันที่จริงก็รู้สึกเป็นพักๆ จนในที่สุด ก็เลือกที่จะทำอะไรที่ไม่ขึ้นอยู่กับคนอื่น อาจจะได้ช่วยงานคนที่อยากช่วยฉันและฉันก็สามารถทำประโยชน์ให้เขาด้วย คนที่เดือดร้อนจากอะไรเหมือนๆ กันย่อมเข้าใจกันได้ดี เข้าใจแบบที่ฉันไม่คาดคิด

แล้วปัญหาเก่าที่หายไปนานก็กลับมาอีกครั้ง...

มีอยู่พักหนึ่งที่ฉันคิดว่า คนอย่างฉันคงไม่ควรจะมีคู่ ใครจะรับได้ว่าฉันทำงานในที่เที่ยว ที่ๆ คนโสดและไม่โสดมองหาและมองผู้หญิงในแง่มุม"นั้น" ฉันคิดไปคิดมาก็จะเลิกแคร์แล้ว และคนข้างๆ ฉันก็ต้องรับให้ได้ด้วย เพราะไม่ว่าฉันจะทำยังไง ก็ไม่พ้นโดนมองไม่ดี เรื่องเดิมๆ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนคน แต่ไม่เปลี่ยนสาระสำคัญ

มีบางคนเข้าใจเหมือนกัน แต่มันน้อยจริงๆ ในเมื่อคนส่วนใหญ่พอใจจะมองผู้หญิงในแง่มุม "นั้น"

ฉันเริ่มทำตัวชั่วร้ายอีกครั้ง ฉันไม่ฝืนใจ ไม่ปรับโดยที่ไม่ว่าจะปรับยังไงก็ไม่คิดว่าฉันใช้ความพยายาม ก็ในเมื่อผลลัพธ์เหมือนกัน ฉันไม่ทำให้มันเหนื่อยไม่ดีกว่าหรือ ฉันยอมแพ้แล้ว เลิกโต้แย้งด้วยเหตุผลของฉัน ยอมรับผิดเอง ถ้าสบายใจคุยได้ติดต่อได้เมื่อไหร่ค่อยทำ จะได้เข้าใจซะทีว่า ฉันน่ะเป็นคน difficult ตามศัพท์บัญญัติของเธอคนนั้น ฉันชั่วร้ายเกินไปมั้ยที่ทำให้เธอนอนไม่หลับหลายวัน เที่ยวถามคนนั้นคนนี้จนทำให้คนใกล้ตัวกังวลและต้องมารับรู้เรื่องของฉันไปด้วย แล้วฉันก็ปฏิบัติไม่เหมาะสมกับคนที่ฉันต้องพึ่งพา ยังไงก็อกตัญญูอยู่ดี จะคิดให้มากไปใย

วันนี้มีพี่ที่เคยบอกฉันว่า ไม่มีวันโกรธฉันโทรเข้ามาในวันที่ฉันเพิ่งเปิดโทรศัพท์ และนั่นเป็นสายเดียวที่รู้เบอร์ที่สองของฉัน ฉันซาบซึ้งในความเป็นห่วงที่มีให้กัน แม้ว่าคืนนี้จะไปเจอพี่พร้อมกับพี่อีกสองคน หนึ่งในนั้นเกาฝ่ามือฉันตอนจับมือ (อีกแล้ว)

ฉันควรจะบอกพี่คนดีมั้ย ควรบอกคนข้างๆ ที่ก็กังวล (จะตายแล้ว) มั้ย หรือควรจะเก็บไว้คนเดียวเหมือนเคย และจะได้ผลลัพธ์โดยไม่ต้องหวังว่าพี่คนนี้จะเข้าใจว่าที่ฉันทำตัวปกติจะแปลว่า ฉันไม่ถือโทษโกรธเคือง ให้อภัยแต่ไม่ใช่ไม่รู้

ฉันน่าจะได้ผลตอบแทนจากการทำงานในไม่ช้า...

ไม่มีความคิดเห็น: