วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

จากวันข้ามปี

วันนี้ขอเขียนบล้อกซักหน่อย เดี๋ยวจะหมดเดือนไปซะก่อน...

หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย มากจนงง จนไม่รู้ว่ามันมาได้ยังไง ทั้งเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว

ฉันงดเนื้อสัตว์ทุุกวันเสาร์มาหนึ่งเดือนเต็มๆ พร้อมๆๆ กับไปไหว้พระแม่อุมาที่วัดแขกทุกศุกร์เช่นกัน หลายเสียงบอกว่า ฉันเป็นลูกแม่ อยากได้อะไรให้ขอ แล้วก็ไม่ต้องบนให้วุ่นวายใจ ฉันก็ทำตามอย่างเคร่งครัด ถวายพวงมาลัยดอกกุหลาบคู่ทุกครั้ง มีครั้งนึงที่ได้คืนหนึ่งพวง ฉันก็เอาไปวางไว้ที่พุุงพ่อทิฐิสูงคนเดียวของฉัน ฝากคำอธิษฐานที่ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างสัมพันธ์และดีขึ้นไปในทางเดียวกัน ล่าสุด ขอให้การทำเลเซอร์ตาของแม่ได้ผล ตาจะได้ไม่่บอดอย่างที่มันคุกคามแม่อยู่ทุกวี่วัน

อยู่ดีๆ ฉันก็ได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง คนที่คุยกันครั้งแรกก็พ่นกันยันสว่าง คุยกันได้ทุกเรื่องสารพัดสารเพ พี่รุ่นใหญ่ผมยาวก็ถามว่าฉันมีแฟนมั้ย ตอบตามตรงว่าไม่มี แล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อ ด้วยประสบการณ์มากกว่าฉันเกือบ 20 ปีเต็มทำให้ฉันเป็นฝ่ายขอเบอร์ก่อน หวังจะปรึกษาขอคำแนะนำสำหรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เริ่มเข้ามาอย่างเป็นรูปเป็นร่าง ตบท้ายก่อนกลับบ้าน วิญญาณหมอดูเข้าสิง

"เฮ้ย เราเป็นคู่กันได้เลยนะเนี่ย" ฉันอุทานด้วยความประหลาดใจ ไม่ได้เก๊ก มีฟอร์มเพราะไม่ได้คิดอะไรไกล อยู่ในราศีคู่ของกันและกัน แถมดาวที่ลอยอยู่ในภพการงานเป็นดาวประจำตัวของอีกฝ่ายต่างหาก!!!

เกิดมาก็เพิ่งเจอคนนี้้คนแรกแหละเธอ!!

จากวันนั้น ฉันก็รอ ลุ้นอยู่ในใจ ใช่ว่าจะหล่อหุ่นประทับใจ แต่คุยแล้วติดใจ แล้วเขาก็โทรมา อิอิ

แล้วก็แทบไม่มีวันไหนที่ฉันจะไม่ได้คุยแลกเปลี่ยน กัดจิกแกมหยอกกับผู้ชายคนนี้ ความสัมพันธ์คืบหน้าไปอย่างรวดเร็วเกินหน้ารถแข่งฟอร์มูล่าวัน และเป็นครั้งแรกท่ีมีคนขอฉันแต่งงาน พร้อมถามย้ำจะเข้าโบสถ์ทุกเมื่อเชื่อวัน อะไรจะใจร้อนเกินวัยรุ่นขนาดนี้หนอ!

วกมาคุยเรื่องงาน ด้วยดาวคู่ของทั้งสองกับดาวเจ้าเรือนการงานเป็นดาวดวงเดียวกัน เรื่องที่เราคุยกันคงจะไม่สวีทในสายตาคนทั่วไป บางคนแอบมองเราคุยเรื่องการถ่ายรูปและมุมมองเรื่องการใช้แสงอย่างออกรสชาด แต่ก็ไม่อาจเข้าใจว่าคู่นี้มันสวีทกันยังไง ที่พอจะเห็นเป็นรูปธรรมก็คงจะเป็นเรื่องความเป็นสุภาพบุรุษ ช่วยฉันถือของ ถือกระเป๋า และยังเป็นพ่อครัวเอกทำอาหารแสนอร่อยให้ฉันทุกวัน เขาพยายามเรียนรู้และตั้งใจอย่างยิ่งที่จะปรับตัวเข้าหาฉัน ไม่ว่าจะสังเกตุว่าฉันชอบอาหารรสชาดอย่างไร อะไรที่ฉันชอบไม่ชอบ เข้าใจข้อจำกัดของฉันและอารมณ์แปรปรวน ผีเข้าผีออกอย่างที่เพิ่งอ่านในหนังสือคู่สร้างคู่สม

ฉันกำลังจะตั้งบริษัทที่สองในเร็ววันนี้ จองชื่อบริษัทไว้แล้ว เตรียมร่างสัญญาต่างๆ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง ร้านประจำของฉันกลายเป็นสตูดิโอแคสติ้งไปแล้ว

นอกจากงานของตัวเองแล้ว ฉันยังรับอาสาไปช่วยงาน 125 ปี การสถาปนาโรงเรียนอัสสัมชัญ ได้ความรู้เพิ่มเติม ได้ทดแทนบุญคุณ แล้วยังได้สนุก ได้คุยกับเป้ อารักษ์อีกต่างหาก อิอิ

วันอังคารนี้ ฉันจะให้สัมภาษณ์กับ All Magazine ยอดพิมพ์ 300,000 เล่มแบบบุญหล่นทับไม่รู้ตัว นึกๆ อยู่ว่าจะต่อยอดจากโอกาสที่เข้ามาแบบไม่คาดฝันยังไง แต่ที่แน่ๆ ฉันต้องแจกหนังสือเจ้าชายน้อยให้คนที่มาสัมภาษณ์แน่นอน

ขออัพเดทเป็นพิธีแค่นี้ก่อนนะคะ หิวอาหารมังสวิรัติสำหรัับค่ำคืนวันเสาร์แล้วล่ะ ต้องเติมแรงก่อนไปคุยงานคืนนี้ ฉันวาดหวังไว้ในใจแล้วล่ะ ว่าจะเปิดตัวเจ้าชายน้อยอีกครั้งในรูปแบบใหม่ได้ใจคนไทยอย่างไร

ช่วงนี้ไอเดียกระฉูดค่ะ งานจัดการดูจะทำง่ายและได้ประโยชน์ครอบคลุม แต่งานละเอียดอย่างงานแปลและงานเคลียร์กับบัญชี และการบริหารคนก็ทำให้ฉันปวดหัวไม่น้อย ก็พยายามทำให้ได้มากที่สุด ให้สมกับตำแหน่ง Miss Anything ที่ป้าอู๋มอบให้ละนะ

เจอกันเดือนหน้าค่ะ