วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ชีวิตรักคนติดอยู่ในคอนโด

ช่วงนี้มีความสุขดี สุขแม้เหตุการณ์บ้านเมืองจะเลวร้ายลงทุกวัน บางทีต้องผ่าตัด ต้องตัดขาเพื่อให้ร่างกายคงอยู่ ดีใจที่ไม่ต้องเป็นคนลงมือกระทำเอง เห็นใจคนที่ต้องตัดสินใจเพราะมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง การบ้านให้แต่งเพลงยังไม่ได้ทำ ตอนนี้ความคิดสะดุด คิดได้แต่กลอน ได้โพสต์สุนทรพจน์ของมูราคามิ เป็นสุขอย่างยิ่งที่ "ลูก" มีคนชื่นขมและแชร์ให้คนอื่น แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว...

เป็นคำขึ้นต้นที่ยาวที่สุดที่ฉันเคยเขียนเลยเนี่ย!

คุณหริ่นขอมา จัดให้เป็นเรื่องแรกเลยค่ะ :)

พ่อหนุ่มข้างกายเอาใจฉันสารพัด เข้ามาก็ถามว่าอยากกินอะไร หิวรึยัง เที่ยงก็กินไอ้นี่มั้ย ทำไอ้นั่นจะกินรึเปล่า แล้วก็เย็นเอาอะไรดี ตลอดวันฉันนั่งหน้าคอม เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็เปิดเว็บนั้นเว็บนี้ เขาก็คอยถาม อ่านอะไรอยู่ อ่านให้ฟังหน่อย แล้วก็ถกเรื่องการเมือง อัพเดทสถานการณ์กันทั้งวัน เราคิดต่างและนั่งถกกันทุกวันได้อย่างราบรื่น

ต้องขอบคุณที่เขามีอะไรก็พูดกันตรงๆ บางเรื่องที่ส่วนตัวส่วนตัว ฉันก็แชร์เป็นตัวอย่าง เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เนี่ยแหละสำคัญ

คนข้างๆ บ่นขึ้นมาว่า ขยะในห้องน้ำเหม็น เฮ้ย ฉันเป็นคนทิ้งคนเดียวนา เพื่อพิสูจน์ความจริง ก้มลงไปดมใกล้ๆ ถังขยะ

ไม่เห็นมีกลิ่นนิหว่า

มองไปรอบๆ มีผ้าเช็ดครัวที่แช่ผงซักฟอกค้างคืนอยู่ ก้มลงไปดม เออ เหม็นจริงๆ

แล้วฉันก็ซักผ้า โห น้ำดำปี๋เลยเธอ จากนั้นก็ไปตอบเขาว่า ที่มันเหม็นคือผ้าที่ซักไว้นะคะ

จากนั้นฉันก็คอยดมถังขยะทุกวัน (จินตนาการแล้วอ้วกได้เลย ไม่ว่าอะไรค่ะ)

เห็นมั้ยเธอ พอพูดกันก็หาสาเหตุเจอแล้วก็แก้ไขได้ นี่ถ้าเขาทนแสนทน มันก็สะสมแล้วเมื่อถึงคราวของฟางเส้นสุดท้าย ไม่ว่าเรื่องมันจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ทำให้ทุกอย่างที่เคยสร้างด้วยกันมาพังทลายเหมือนปราสาททรายหายไปเลย

ที่พูดไปน่ะ เคยเจอมาแล้ว เขาคนนั้นพูด พูด พูด ให้พี่กับน้องฟังอย่างยืดยาว 2 ชั่วโมงไม่มีหยุด และนั่นก็ถึงคราวแตกหัก ฉันได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง เจ็บเองแล้วว่า

มีปัญหาให้พูดกัน แล้วก็พูดกันนะ ไม่ใช่พูดกับคนอื่น เรื่องในบ้านต้องแก้ไขในบ้าน แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ให้คนที่มีวุฒิภาวะมาช่วยเป็นคนกลางในการหาทางแก้ปัญหา

มีเรื่องสะดุดติดอยู่ในความคิดของฉันเหมือนกัน เมื่อความคิดมันค้างคา ฉันว่าจะพูดแต่เขาง่วงแล้วไม่เหมาะที่จะคุยกัน ฉันอดรนทนไม่ไหวก็เลยเขียนและส่งอีเมลไปหา คงหลายหน้าอยู่ ยาวเฟื้อย เขียนแล้วก็สบายใจให้ไปอ่านเอาเอง แล้วคนที่ควรอ่านก็อ่านแล้วก็ว่าฉันคิดมาก โอเค ในเมื่อเรื่องที่ฉันสงสัยไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ฉันก็ทิ้งเรื่องนั้นไปได้เลย ถือว่าถามแล้ว จะยกมาใช้ในศาลไม่ได้อีกนะคะคุณ

ฉันไม่เคยอยู่กับใครแล้วสบายใจอย่างนี้ คนขี้รำคาญอย่างฉันไม่คิดเหมือนกัน ยิ่งช่วงนี้ไปไหนไม่ได้ตัวติดกันเป็นฝาแฝดอินจัน ประมาณนั้น

แอบมีเมื่อวานที่พี่ที่รู้จักกันชวนกินข้าวเย็น ไอ้ฉันก็เห็นว่าสไตล์พูดขวานผ่าซากของพี่คนนี้คงไม่เหมาะที่จะมีคนติดสอยห้อยตามไปด้วย แล้วผู้หญิงก็จะได้จุ๊กจิ๊กคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสบายใจ เขาก็ยังโทรมาถามว่าจะกินข้าวบ้านรึเปล่าอยู่ดี ก็ฉันเล่นหายไปกินข้าวตั้ง 4 ชั่วโมงนี่นา

กลับเข้าคอนโด ไม่ใช่จะตื่นตูมหรอกนะเธอ แต่การอยู่คอนโดคงต้องเตรียมพร้อมมากหน่อย น้ำไฟสำรองอยู่ได้กี่วัน บันไดหนีไฟเปิดออกได้ทุกชั้นรึเปล่า แต่ถ้าเกิดมีใครจุดไฟเผาก็ไม่ต้องตื่นเต้น ขอให้รถดับเพลิงมาเถอะ แม่ฉันเลือกไว้แล้วว่าให้อยู่ชั้น 6 รถดับเพลิงปีนขึ้นไปถึง

เข้า 7-11 เตรียมซื้อถ่านสำหรับวิทยุและไฟฉาย เกิดไฟดับขึ้นมาจะได้รู้ความเป็นไปของชาวโลก โน๊ตบุ้คของฉันมีแอร์การ์ดก็ติดต่อกับโลกภายนอกได้จนแบตเตอรี่หมด หรือถ้ามันแย่จริงๆ ฉันก็ชาร์ตแบตผ่านรถยนต์ได้เหมือนกัน

มาม่า อาหารกระป๋อง อาหารสด ผักผลไม้เต็มตู้เย็น ขาดแต่เตาปิกนิคนั่นแหละ ถอนเงินมาเก็บไว้กับตัว เผื่อ ATM ฝั่งตรงข้ามคอนโดจะโดนประทุษร้ายเหมือนบริเวณอื่นๆ

เอาเป็นว่าฉันเตรียมพร้อมเต็มสตีมแล้วล่ะ คนข้างๆ ถามหลายทีเรื่องน้ำมันรถ ยังไงมันก็พอที่จะขับออกนอกเมืองไปบ้านริมน้ำของแม่แหละ แถวนั้นถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ตกปลา ก่อกองไฟ หุงข้าว ทอดปลาต่อชีวิตได้หลายเดือนอยู่

นี่ฉันท่าจะเวอร์ไปเรื่อยๆ แล้วละเนี่ย

งานการทีต้องสะสางก็ลำบากเพราะราชการก็ปิดกันหมด เป็นข้ออ้างที่ดีในการไม่ทำงานดีจัง อิอิ

ไปอัพเดทและแต่งเพลงต่อดีกว่า คิดไม่ออกก็ดูหนังให้ตามันบวมไปเลย!

ไม่มีความคิดเห็น: