วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551

Nat: The Real Entertainer


เสียดายจัง รูปคราวนี้ฉันถ่ายไม่ค่อยชัดเลย แถมแบตก็ใกล้หมด ให้มันได้อย่างงี้สิน่า เมื่อไหร่ต้องการใช้ ไม่ว่าโทรศัพท์มือถือหรือกล้องต้องแบตหมดทุกครั้ง ให้ตายเถอะ
เป็นครั้งแรกที่ฉันไปดูคอนเสิร์ตที่ Karafun แถวสี่แยกเหม่งจ๋าย นาน น๊านที ที่ฉันจะไปต่างถิ่น ปกติฉันก็จะไปแฮงค์อยู่ที่เดิมตลอด 10 ปีได้แล้ว บางคนก็ว่า ทำไมไม่เปลี่ยนบรรยากาศไปที่อื่นบ้าง คนเราถ้าสบายใจหรือชอบอะไรแล้ว จะยังต้องไปไขว่คว้า ค้นหาอยู่มั้ยนั่น ที่ยังต้องเปลี่ยนที่แสดงว่าเป็นคนขี้เบื่อหรือไม่ก็ยังไม่เจออะไรที่ถูกใจ ว่าแต่ไอ้คนขี้เบื่อนั่นน่ะ เพราะสถานที่เดิมๆ มันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นจริงๆ หรือเขาเหล่านั้นมองดูอะไรเพียงผิวเผิน ถ้ามองอะไรให้ลึก สิ่งที่ดูเหมือนจะเดิมๆ ก็มีอะไรลึกๆ ที่แตกต่างนะ จะบอกให้ ฉันเองก็เป็นคนขี้เบื่อ ทำไมฉันไม่เบื่อร้านประจำของฉันหว่า
เข้าเรื่องดีกว่า อ้อมไปไกลแล้วเนี่ย ระหว่างหม่ำChip จิ้ม Guacamole (สะกดอาหารโปรดถูกรึเปล่าเนี่ย) ก็อัพบล้อกไปด้วยค่ะ ฉันไม่คาดคิดหรอกว่า หลานฉันจะมีแฟนๆ มากมายขนาดนี้ แล้วด้วยความที่ไม่ได้ดูคอนเสิร์ตของหลานมานาน ก็เลยเห็นพัฒนาการได้อย่างชัดเจน ปกติเวลาเรามองคน บางคนมองว่าใครเก่ง ไม่เก่ง แต่ฉันว่าคนที่มีพัฒนาการ มีความเปลี่ยนแปลงน่าจะเป็นที่น่ายินดีมากกว่า อีกทั้งถ้าพื้นเดิมก็ดีอยู่แล้ว ยิ่งไปโลดเลยคราวนี้
คอนเสิร์ตคราวนี้สนุก ทำให้คนเส้นลึกอย่างฉัน ขำได้เรื่อยๆ คุณภูษิต ไล้ทองก็ยังไว้ลายความเก๋า เข้ากับเด็กรุ่นหลานได้เป็นอย่างดี การร้องเพลงและเป่าแซกร่วมกันทำให้ฉันหา Generation Gap ไม่เจอ ติดใจหลานร้อง Fly me to the moon จนรู้สึกว่าถึงเวลาที่ฉันจะต้องหัดร้องเพลงนี้ซะทีแล้ว เพลงนี้มันวนเวียนเกี่ยวข้องกันฉันมาหลายครั้งหลายหนซะจนฉันก็นั่งคิดๆ แล้วก็คุยกับตัวเองว่า ทำไมมันถึงได้เกี่ยวกับฉันนักนะเพลงนี้น่ะ
นัทร้อง Playgirl ที่เป็นเวอร์ชั่น Playboy ด้วย ฉันก็กำลังหัดเพลงนี้อยู่เหมือนกัน พอฟังนัทร้องแล้วฉันเลยต้องมาหัดร้องให้เป็นเรื่องเป็นราวอีกครั้ง
ฉันตั้งใจดูคอนเสิร์ต คล้ายจะต้องการศึกษาและวิเคราะห์อะไรๆ แฟนคลับนัทเป็นแฟนคลับที่เรียบร้อยมากและอยู่ในระเบียบ ปฏิบัติตามที่นัทขอความร่วมมือทุกอย่าง ไม่มีการมายืนเย้วๆ หน้าเวที ทุกคนนั่งเรียบร้อย พอถึงเพลงที่ต้องเต้นก็ยืนเต้น ณ ที่นั่งของตัวเองอย่างเป็นระเบียบ ผู้ใหญ่ก็เช่นกัน
ฉันละขำ มุขของนักดนตรีรุ่นใหญ่อย่างพี่แต๋ง ภูษิต ไล้ทองจริงๆ ตอนที่มีผู้ใหญ่มาเชิญให้พี่แต๋งเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตของนัท พี่แกก็เข้าใจว่าเป็น ณัฐ ยนตรรักษ์ เพลงทีจะต้องเล่นคงไม่พ้นประมาณ บัวขาว ลาวดวงเดือน เรียกเสียงฮาได้ตรึม เมื่อทราบว่าเป็น ณัฐ ศักดาทรต่างหาก สาวๆ ที่มาเต้นคลอเคลียนัทในเพลงเร็วๆ (ซึ่งฉันจำชื่อไม่ได้อะ she bang she bang อะไรเนี่ยล่ะ) ก็เต้นได้ โอ้ โห จริงๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไง ยิ่งเวลาสาวผมตรงยาวประบ่าทำปากเป็นรูปโดนัท โอ้ย อะไรกันนี่!!
มันมีหลายรสหลายอารมณ์ดีจัง เป็นห่วงอยู่อย่างคือ นัทผอมลงมาก ผอมจริงๆ แล้วฉันก็นึกถึงพัดชา ที่ผอมลงจนผิดหูผิดตาเช่นกัน คนจะขึ้นกล้องก็ต้องทำตัวให้ผอม หน้าจะได้ไม่ป่องคับจอ ต้องเสียสละเพื่ออาชีพจริงๆ
รอดูความสำเร็จและความรุ่งเรืองของคนที่พร้อมอย่างนัทไปเรื่อยๆ นะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น: