ฉันว่าหมู่นี้ฉันสับสน แกว่งไปแกว่งมาจนไม่รูู้ว่าควรจะไปทางไหน มันคล้ายจะมีนางฟ้ากับซาตานคอยมาเป่าหูสองข้างพร้อมๆ กัน...
ฉันรู้สึกว่าความนับถือตัวเองต่ำลงอีกแล้ว (Self-esteem) ความคิดแง่ลบเข้าครอบคลุมพื้นที่ในใจฉันจนเกือบมิด มีช่องให้แสงสว่างพาดผ่านเพียงชั่วคราว อาการนี้เกิดขึ้นเป็นอาทิตย์แล้ว จะมีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงมากไปกว่าฉัน...
ฉันทำอะไรที่โง่เหลือเกินในสายตาคนอื่น มีสายตาที่มองมาแบบพูดอยู่ในใจว่า คนอย่างฉันทำแบบนั้นได้ยังไง
ฉันนั่งร้องเพลง I don't know how to love him เนื่องจากโดนใจอย่างที่สุด คนไม่ค่อยจะเชื่อหรอกว่า ฉันจะ ณ จังงัง ทำอะไรไม่ถูกทั้งๆ ที่ตัดสินใจฉับๆ เรื่องการงาน
จนถึงวันนี้ ฉันก็ยังรู้สึกแกว่งไปมาอยู่เช่นเคย
ฉันพยายามจะไม่เปิดโอกาสให้สิ่งเร้าเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตฉัน แต่แล้วเมื่อฉันอยากจะปลดปล่อย เมื่อขอเวลาเป็นครั้งคราวให้สติหยุดควบคุมความรู้สึก แล้วความรู้สึกที่โดนเก็บกดก็ระเบิดออกมาแบบไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ฉันยังนึกภาพคนอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายฉัน ทบทวนความรู้สึกของฉันต่อภาพคนเหล่านั้น ในที่สุด ฉันก็ทำอะไรไม่แตกต่างจากคนอื่่น ทั้งๆ ที่ปฏิเสธต่อต้านตลอดเวลา
ฉันพลั้งเผลอแต่ไม่ได้แปลว่าความผิดจะต้องเกิดขึ้นอีกซ้ำซากเหมือนๆ กับที่เรามักจะตอกย้ำตัวเองด้วยเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
คนที่จมอยู่กับอดีตจะไม่มีวันได้เห็นความสุข พบอนาคตที่ดีกว่า
ฉันเชื่ออย่างนั้น...
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น