วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ปริ...แตก

แว่วเสียง "เพล้ง" มาจากระเบียง ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะอะไรในทันที...

ทุกครั้งที่ฉันรดน้ำต้นไม้สวนหย่อมลอยฟ้า สวนกะจิดริด ฉันก็คอยชะแง้แลดูรอยปริแตกของกระถางดินเผาที่ใส่ต้นชวนชมอยู่เสมอ ทั้งที่เห็นมันปริ แตก แยก เป็นเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับกระถางและต้นไม้นี้เสียที จนได้ยินเสียงกระถางที่อดรนทนต้นไม้ไม่ไหวแล้วเน่ียแหละ ถึงได้ประกาศสลายตัว ขอจบชีวิตเพียงเท่านี้

นอกจากต้นไม้ที่ถึงเวลาต้องขยับขยายแล้ว โชคยังดีที่ฉันย้ายสต๊อกหนังสือและเคลื่อนย้ายสำนักพิมพ์กำมะหยี่ไปอยู่ที่สำนักงานใหม่ เนื้อที่กว้างขวาง โล่ง โปร่งตา ออกจะโอ่อ่าเกินเหตุ แต่ก็อะนะ เวลาเริ่มเข้าไปอยู่ใหม่มันก็โหวงๆ แบบนี้แหละ พอสักพักหนึ่ง มันก็จะแน่น เต็มคับที่คับทางไปหมดโดยไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำไป

เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา งานการของสำนักพิมพ์หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ด้วยฉันป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นหวัด 2009 ยอดฮิตรึเปล่า แต่แค่นั้นก็นอนเดี้ยงไม่เป็นอันทำอะไรอยู่หลายวัน ได้นอนแบบที่อดมาแรมเดือน ได้ดูทีวีอย่างที่ไม่เคยได้ดูทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้มาก่อน และไม่วายเข้าเฟซบุคทุกทีที่ว่าง เหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ก็ไม่เปิดคอมก็เปิด iphone เข้าเฟซบุคมันยากซะที่ไหนละนั่น

เมื่อร่างการพร้อมสู้รบแล้ว อาทิตย์นี้ควรอย่างยิ่งที่จะเป็นอาทิตย์แห่งการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง จัดระเบียบ จัดออฟฟิศ จัดสวน จัดตัวจัดใจ พร้อมรับขวบปีที่ 38 แห่งอายุขัยที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า ปีที่ฉันเชื่อว่าจะมีแต่สิ่งดีๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ นำมาซึ่งความสุขสนุกสนาน เพื่อนฝูงมิตรสหาย และช่วงเวลาดีๆ อีกช่วงหนึ่งของชีวิต

ฉันไม่อยากจะเชื่อตัวเองว่าปีนี้เป็นปีที่ฉันได้พบเจอกับอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง เราไม่มีวันรู้จริงๆ ว่าจะเจออะไรในอนาคต ฉันได้คืบคลานเข้าวงการมายามากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน ฉันจะได้พบอะไรที่ฉันชอบมากกว่าการทำหนังสือกระนั้นหรือ ไม่ล่ะ ฉันว่าได้ทำหนังสือ โดยเฉพาะเรื่องเจ้าชายน้อย น่าจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ อะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าได้เกิดมาทำประโยชน์ให้คนอื่นๆ พอสมควรแล้ว หนังสือดีราคาประหยัด ลงทุนกับวัสดุอุปกรณ์ ได้คำนำจากท่านเอกอัครราชทูตสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผลงานตลอดอายุของหนังสือ ได้จัดให้มีกระบวนการผลิตหนังสือที่มีคุณภาพที่สุดเท่าที่จะสรรหาทิมงานและทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด

ฟ้าลิขิตให้ฉันได้ทำโครงการนี้และฟ้าก็ให้ฉันได้มีผู้ร่วมงานที่ดีๆ งานสำเร็จลุล่วงไปได้ในที่สุด และฉันก็ยังคงต้องทำงานต่อไป ยังคงรอให้หนังสือกระจายไปสู่เด็กๆ ทั่วประเทศไทย ให้ทั้งพ่อแม่และคนรอบตัวได้อ่านและได้ฉุกคิดอะไรจากปรัชญาที่แฝงอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ที่มีอยู่หลายๆ บท หลายตอนในหนังสือ

ฉันจะจบบทความวันนี้อย่างไรดี ต้นไม้มันเจริญเติบโตจนกระถางปริแตก สำนักพิมพ์ก็ขยายจนห้องของฉันดูจะคับไปแล้ว ความคิด จุดหมายของฉันคงจะต้องมีทีมงานมารองรับขยายผลให้เป็นตามที่หวังไว้ละมัง

ปริ แตก กันทุกอย่างละเน้อ

ไม่มีความคิดเห็น: