วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2552

สบายใจแระ

วันอาทิตย์ที่ฉันบ่นไปแล้วว่ามีอะไรต้องทำหลากหลาย สรุปว่า ฉันไม่ได้ทำเลย...

กลับบ้านตีสี่หลังจากเสร็จสารพัดงานและธุระโดยมิได้แตะต้อง L ก ฮ แม้สักหยด

ฉันนอนลืมตาฟังเสียงโทรศัพท์เจ้านายดังหลายครั้ง แล้วนึกย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่วันก่อนที่มีคนโทรหาทั้งวัน พอตกภาคกลางคืน นายโทรหาทุกชั่วโมงจนถึงห้าทุ่ม พร้อมความรู้สึกผิดที่ติดตัวมาอย่างยาวนาน 

ฉันเป็นอะไร ทำไมฉันถึงขาดความรับผิดชอบขนาดนี้ อะไรคือต้นเหตุของปัญหากันแน่

ฉันต้องการความช่วยเหลือในการวิเคราะห์ปัญหาอย่างมีเหตุผล ปรึกษาใครดีละทีนี้ คุณอาที่รับฟังปัญหาฉันมาแต่อ้อนแต่ออกท่าจะดีที่สุด

เล่าเหตุการณ์ปัญหาเรื่องราว ได้ความว่า ฉันเป็นโรคพักผ่อนไม่เพียงพอเรื้อรัง ซึ่งในความเห็นของคุณอา อันตรายมาก

การที่เราไปรับผิดชอบสิ่งต่างๆ มากมายโดยที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อต้าน จึงเป็นที่มาของการไม่ยอมตื่นในหลายๆ วัน

ฉันนึกย้อนกลับ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ปัญหาส่วนใหญ่ในชีวิตมักจะมาจากเรื่องนี้ การไม่รู้จักประมาณตน ไม่รู้จักปฏิเสธ อย่างที่ฉันชอบบอกตัวเองอยู่เรื่อยว่า ความหมายของคำเปรียบเปรยที่พี่คนหนึ่งให้ไว้คือ เป็นสินค้าที่ฉลากไม่ตรงกับของข้างใน 

ท่าทางเวิร์คกิ้งวูแมนของฉันมักจะทำให้คนเข้าใจผิดว่าฉันสามารถทำงานหนักเป็นบัฟฟาโล ด้วยความสามารถอาจจะทำได้ แต่ความอึด ทนทาน ความบึกบึนของร่างกายและจิตใจไม่เป็นอย่่างนั้น แล้วก็ทำให้ฉันย้อนนึกไปถึง คำพูดของคนที่ดูลักษณะมือ คนที่บอกฉันว่า พอรู้จักฉันเป็นครั้งแรก ก็คิดว่าพูดจาเหมือนคุยกับผู้ชายได้ ประมาณว่า ไม่ต้องถนอมดังเป็นผู้หญิงที่ละเอียดอ่อน แต่พอมาดูลักษณะมือและกระดูกของฉันแล้วก็พบว่า รูปมือเป็นมือของผู้ชาย แต่กระดูกเป็นแบบผู้หญิง แปลได้ว่า ข้างนอกดูเหมือนผู้ชาย ดูแรง แต่จริงๆ แล้วคือผู้หญิงที่ต้องการการทะนุถนอมดีๆๆ นี่เอง

จะมีใครมองลึกลงไปเห็นความละเอียดอ่อน ความเป็นผู้หญิง ในเปลือกแข็งแต่เปราะนี้มั้ยหนอ 

แต่นั่นคือ การมองในรูปแบบความสัมพันธ์ ส่วนเรื่องงาน มีแต่จะก่อให้เกิดความผิดหวัง เข้าใจผิด อะไรประมาณนั้น

ได้พูด ได้มีข้ออ้างให้ตัวเองก็ทำให้รู้สึกสบายใจแล้วล่ะเธอ

ไม่มีความคิดเห็น: