วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มีแต่เรื่อง อิอิ

วันนี้ทำได้เกือบครบที่ตั้งใจไว้แน่ะ และยังแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนนอนนวดประคบอีกต่างหาก...

เมื่อคืนฉันนอนหน้าทีวี เปิดทีวีค้างไว้ด้วย เปิดประตูกระจกหน้าระเบียงรับอากาศบริสุทธิ์ นอนหลับด้วยวิธีนี้ก็ไม่ฟุ้งซ่านดีนะเธอ แถมเวลารู้สึกตัวก็บริโภคข่าวสารไปด้วยในตัว ดีกว่าฝันเรื่องโน้นนี้เป็นตุเป็นตะ ว่าแต่ว่า ถ้างั้นสงสัยต้องยกเตียงมาไว้ข้างนอก แล้วปรับเปลี่ยนห้องนอนเป็นห้องแต่งตัวแทนน่าจะเหมาะกว่า!!

เพราะทุกวันนี้ห้องนอนก็เอาไว้นอนกับแต่งตัว ถ้าลดหน้าที่ของห้องไปหนึ่งอย่างก็น่าจะทำให้ฉันมีที่ใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ตกแต่งมากขึ้น (เป็นงั้นไป เฮ้อ!) แล้วโซฟาจะย้ายไปที่ไหนละเนี่่ย สรุปแล้วคงต้องทำเหมือนเดิม อะไรที่พอจะเอาออกจากห้องนอนได้ก็ย้ายมาไว้ข้างนอก ห้องนอนจะได้ไม่เหมือนห้องเก็บของ!! แล้วต้องซื้อทีวีไปไว้ในห้องอีกเครื่องมั้ยเนี่ยเรา จะตั้งไว้ที่ไหนละนั่น เฮ้อ (อีกที)

กลับมาเรื่องดีๆ ของวันนี้ดีกว่า ฉันไปหาหมอทัน (ไชโย) ก่อนหน้านั้นก็เก็บ/พับผ้า ดีที่ช่วงนี้ใส่แต่ชุดอยู่บ้านเลยไม่มีผ้าต้องรีด อุ่นอาหารมื้อเย็นมากินต่อจนหมด แล้วก็ไป La Villa ทำสารพัดธุระ เรื่องใหญ่ที่ไม่ได้ทำคือ ทำเล็บ ยังมีเวลาเหลือนาทีสุดท้ายบ่ายวันจันทร์ ตอนนี้เล็บที่ต่อเจลไว้มันก็หลุดไปเรียบร้อยแล้วหนึ่งนิ้ว ไม่นับที่ต้องนอนให้ซ่อมอีกหลายชั่วโมง คิดไปคิดมา ฉันคงจะทำเล็บ pr กำมะหยี่ต่อไป ดูเป็นผู้หญิงแต่งตัวที่มีสมองมั้ยเธอ

ที่ว่าฉันนอนให้นวดแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก็เพราะแฮปปี้ไปล่วงหน้าว่าจะได้รู้จักคนท่าทางนิสัยดีให้มากขึ้น นึกไปถึงบทสนทนา อากัปกิริยาที่น่าประทับใจ ตอนแรกฉันไม่คิดว่าจะมีใครผ่านเข้าประตูนี้มาได้แล้วซะอีก เพราะเขาคนนั้นต้องผ่านประตูใจก่อนจะถึงประตูสมอง แล้วส่วนใหญ่ ถ้าข้ามขั้นได้จะผ่านประตูสมองแต่ไม่ผ่านประตูใจ เฮ้อ!!

ฉันสวมวิญญาณเชอร์ล็อคโฮม(อาชีพเก่า)อีกเช่นเคย เวลาคนอื่นรู้แล้วจะตกใจ ทั้งๆ ที่ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่ตรงไหน ฉันแค่อาจจะตกอยู่ในมนตร์เสน่ห์ของการค้นหามากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง บางคนหาข้อมูลใน google แค่หน้าหรือสองหน้าก็เบื่อแล้ว แต่ฉันคลิกไปดูเป็นสิบๆ หน้าได้สบายมาก แล้วก็เจอสิ่งที่ต้องการจะหาแทบทุกครั้ง

ครั้งนี้ก็เช่นกัน อิอิ

นอกจากเรื่องงานที่เป็นแพทเทิร์นเดิมซ้ำๆ น่าเบื่อๆ ที่ไม่ได้บอกให้ฉันรู้จักคนๆ นี้เพิ่มขึ้นไปจากหน้าที่การงานมั่นคงและดีมากที่รู้อยู่แล้วนั่น มีสองเว็บที่มีข้อมูลที่ฉันสนใจ เว็บที่บอกว่าฉันจะสามารถเห็นสมบัติส่วนตัวบางสิ่งของเขาจากหนังสือเล่มหนึ่ง และข้อมูลว่าสมบัติชิ้นนั้นของเขามีองค์ประกอบย่อยที่ใช้ของดีอย่างคนที่ใส่ใจในรายละเอียด

ฮ่า ฮ่า ฉันหาคนที่มีหนังสือเล่มนั้นเจอแล้ว!!!

ฉันเชื่อว่าของที่อยู่ใกล้ตัวใครจะบอกอะไรเกี่ยวกับคนๆ นั้นได้ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับว่า เขามีข้อจำกัดใดๆ ในการเลือกสิ่งนั้นหรือไม่ สิ่งนั้นจึงจะสะท้อนความเป็นตัวตนของคนนั้นได้ในระดับต่างกัน

ฉันนั่งนึกรออยู่ว่าจะถามพี่คนที่มีหนังสือเล่มนั้นเมื่อไหร่ดี ถ้าแค่วันหรือสองวันมันจะเร็วเกินไปมั้ยเนี่ย!

ช่วงนี้ฉันต้องหาเรื่องอื่นให้สมองวุ่นวายมิฉะนั้นแล้ว จิตใจจะจดจ่ออยู่กับเรื่องนี้จนไม่เป็นผลดีกับตัวฉันเอง วันนี้ไปเอาจดหมายและพัสดุที่ส่งมาจากเมืองนอก มีอะไรมาทำให้ฉันไม่ว่างอีกกล่องใหญ่แล้วล่ะ หนังสือเล่มใหม่ก็กำลังจะออก หน้าปกปรูฟดิจิตอลออกมาสวยถูกใจ แต่ฉันยังไม่ค่อยรู้สึกลงตัวกับสายคาด คาดตรงไหนจะเหมาะที่สุดหว่า สักสองนิ้วจากขอบล่างด้านขวางท่าจะดีที่สุด แต่เอาให้แน่ รอดูม็อคอัพของจริงก่อนตัดสินใจดีกว่า หนังสือเล่มนี้ทำสำหรับคนที่รักหนังสือ เพราะฉะนั้นต้องใส่ใจทุกรายละเอียด หนังสือออกช้าก็ต้องรอจนกว่าจะพร้อมจริงๆ ฉันว่านะ (เจ้าสำนักรู้สึกจะเห็นด้วยนา)

แล้วก็กลับไปนึกถึงคุณพี่...ฉันตั้งชื่อว่าร็อกเก็ตละกัน เพราะอาหารมื้อแรกที่ร่วมโต๊ะกัน เขาสั่งร็อกเก็ตสลัด :)

วันนี้ฉันไปวางแผนบ้านน้องชายสนุกสนานกันใหญ่ เอ่อ ประมาณว่า

อยากได้พี่เขยดีๆ ป่ะ อยากได้ก็ช่วยพี่ด้วย

น้องสุดเลิฟถามว่า ไปดูรถไฟฟ้ามาหานะเธอรึยัง

ฉันตอบว่า ดูแล้ว น้องที่รักก็รู้แล้วว่าฉันควรจะมีศิลปะในการทิ้งผ้าเช็ดหน้าอย่างไร 555

ที่เหลือเรื่องข้อมูล น้องชายฉันส่งเมล์มาให้เรียบร้อย นอกจากจะทำเพื่อตัวเองแล้ว ยังต้องย่อยเป็นภาษาไทยส่งกลับไปให้น้องชายเป็นผลงานที่พี่สาวสุดที่รักเนรมิตให้อีกต่างหาก

อะไรมันจะลึกลับซับซ้อนนักนะเนี่ย!! ทำยังกะจะออกรบเลยอะ ว่างั้นมั้ยเธอ

ไปแระ มีอารมณ์อยากเล่าแล้วจะมาเล่าต่อนะ อิอิ

ไม่มีความคิดเห็น: