วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานวันเกิดโมนา

รู้สึกสบายใจจังที่สามารถเขียนชื่อคนที่ฉันกล่าวถึงได้ ด้วยว่าเขาเหล่านั้นไม่ใช่คนไทย หรืออีกทีก็ไม่ใช่คนในแวดวงของฉัน...

หลายครั้งที่นึกอิจฉามาดามมิว ชีวิตของเธอเกี่ยวพันกับคนต่างภาษา ต่างเมือง ต่างวัฒนธรรม เวลาจะเขียนบล้อกเกี่ยวพันกับใครก็เขียนได้ไม่ต้องกังวล อันทีี่จริงก็ใช่ว่าคนที่ฉันเขียนถึงจะไม่ดี แต่ถ้าจะให้เขียนจากใจต้องไม่ระบุชื่อเสียงเรียงนาม การที่ฉันเล่าเกี่ยวกับบุคคลใหม่ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉันในงานวันเกิดที่ว่า เลยทำให้ฉันคลายความรู้สึกอึดอัด กะว่าคิดอะไรได้ก็จะเขียนอย่างนั้นล่ะ แม่โมนาอย่าจับหน้านี้แปลเป็นภาษาอังกฤษละกัน เพราะเธอเป็นคนไวต่อความรู้สึกมาก ฉันไม่อยากจะมานั่งปลอบใจ อธิบาย

ฉันรู้ว่าถ้าฉันปฏิเสธไม่ไปงานวันเกิดของเธอเหมือนพี่ยิ้ม นั่นคงกระทบกระเทือนจิตใจเธอใช่น้อย พี่ยิ้มไประยองฉลองวันเกิดน้องสาวที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่กับสามีเลี้ยงดูลูกสองคน ฉันไม่ได้รู้ล่วงหน้าหรอก รู้จากน้องเปิ้ล หรือแอปเปิ้ลที่โมนาชอบเรียก อันว่าน้องเปิ้ลก็จำฉันได้จากการเจอกันเพียงครั้งเดียวพร้อมพี่ยิ้ม ฉันไปถึงบริเวณคอนโดของโมนาเร็วไปร่วมครึ่งชั่วโมง ถือเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ซื้อของเข้าบ้าน ช่วงนี้ป๊อปคอร์นเป็นอาหารโปรดของฉันระหว่างดูสารพัดหนัง นึกขึ้นได้ว่าฉันซื้อกีวีมานี่ สงสัยต้องเอามากินซะตอนนี้แล้วแหละ ยังเสียดายไม่หายทีฉันลืมซื้อสก๊อตไบรท์อันใหม่ อันเก่ามันรุ่งริ่งเหลือเกินแล้ว คงต้องออกไปซุปเปอร์ฯในวันสองวันนี้แหละ จะได้ซื้อเนื้อสัตว์และผักมาตุนไว้ด้วย ใครจะเชื่อว่าฉันอยู่ห้องได้ทั้งอาทิตย์ อันที่จริงถ้าไม่ต้องพบเจอใครอีกเลยในโลกนี้ก็ไม่ได้ทำให้ฉันเดือดร้อนแต่อย่างใด น่าแปลกจริงๆ ที่ไม่ว่าใครก็แปลกใจในเรื่องนี้

ฉันออกจะมีความสุขในความสงบจากการอ่าน The Alchemist เหลือเกิน ฉันคงต้องซื้อหาหนังสือของผู้แต่งเรื่องนี้มาอ่านให้ครบทั้งชุด คุณ Paolo เขาเขียนแบ่งประเภทหนังสือของเขาไว้เรียบร้อย เล่มที่ฉันเพิ่งอ่านจบอยู่ในหมวด wisdom ล่ะเธอ คำคมเพียบ

ย้อนกลับไปวันเกิดโมนาอีกครั้งก่อนจะไถลไปเรื่อยอย่างนี้ วันนั้นฉันอัดยาเต็มที่แต่ก็ไม่แคล้วรู้สึกคล้ายน้ำมูกจะไหลอยู่เสมอ อีกทั้งเจออากาศเย็นข้างนอกและในซุปเปอร์มาร์เก็ต แหม ก็ชุดของฉันวันนัั้นต้องเซ็กซี่ตามคำขอของเจ้าของวันเกิด ชุดสีเขียวสดใสแบบเดียวกับชุดสีขาวอันลือลั่นของมาริลีน มอนโร ซึ่งเธอจะได้เห็นรูปถ่ายที่ฉันดัดจริตทำท่าเลียนแบบผู้หญิงอันเป็นตำนานความเซ็กซี่ของโลก

เจอน้องเปิ้ลที่หน้าซุปเปอร์ฯ เราสองคนก็พากันเดินไปที่ห้องชุดของโมนา แม้ฉันจะเสียเวลาซื้อของเข้าบ้านอยู่พักหนึ่งพร้อมทั้งไม่ลืมหยอดสตางค์ใส่กล่องรับบริจาคให้เด็กยี่สิบบาท แต่เราก็ยังเป็นแขกกลุ่มแรกที่ไปถึงงาน

น้องชายหน้าตาไม่เลวที่มีหุ่นไม่เลวอีกเช่นกันของโมนาเปิดประตูทันทีที่ฉันกดกริ่ง โมนาคงกำลังแต่งสวย พ่อของเธอที่ฉันเคยร่วมงานด้วยมาต้อนรับ ชวนคุยอยู่ครู่หนึ่ง เขาถามความคืบหน้าเรื่องโครงการที่เกี่ยวกับส่วนงานวัฒนธรรมที่ฉันได้รับข้อเสนอพิเศษสุดที่ไม่คาดคิด แต่งานทุกงานมีลำดับของมัน งานนี้ยังไม่ถึงเวลา และฉันเองก็ยังหาจังหวะที่จะคุยเป็นเรื่องเป็นราวกับโมนาไม่ได้

ฉันรีบมอบของขวัญให้โมนาทันทีที่มีโอกาส วันนั้นเธออยู่ในชุดผ้าบางเบาสีออกโทนน้ำตาลหลวมๆ พรางรูปร่างที่เธอไม่ค่อยพอใจและชอบเปรียบเทียบกับฉันเป็นประจำ ยังดีที่เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ไม่อยากอยู่ใกล้คนที่ทำให้ตนเองดูด้อยลงไปถนัดตา เป็นโชคดีที่เธอมองลึกไปกว่าเปลือกที่ใครๆ มองกัน ฉันแวบนึกถึงวันที่ฉันไปงานปาร์ตี้คาวเกิร์ลกับเจ้าหล่อน ที่หล่อนเข้าใจเจตนาดีของฉันเบื้องหลังการกระทำหลายอย่างที่คนมองว่าผู้หญิงดีๆ ไม่ควรทำ

ของขวัญที่ฉันมอบให้โมนาในวันนั้นมีสามชิ้น หนังสือ "หมู" ที่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้หรอก แต่ฉันดันสั่งจาก amazon.com มาสองเล่ม จะว่าไปแล้วมันก็ไม่เลวหรอกที่จะให้หนังสือที่ถือได้ว่าเป็นอาหารสมองกับเพื่อนคนหนึ่ง ของขวัญชิ้นที่สองคือกระเป๋าสานวาดเป็นลายเสือสุดเปรี้ยวที่ฉันได้มาจากเชียงใหม่นานแล้วแต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับเธอ สุดท้ายคือ ไฟล์ Gossip Girl season 3 ทั้ง 7 ตอน รู้สึกเธอจะ "บ้า" ซีรีส์เรื่องนี้ไม่น้อย ถึงกับเรียกฉันว่า เซรีน่า คนดังผู้นำแฟชั่นในเรื่อง

โชคดีมากที่ฉันเห็นของต่างๆ ที่เหมาะกับโมนา บางคนฉันยังไม่สามารถมองไปที่ของใดแล้วเห็นว่าเหมาะกับคนๆ นั้นได้เลย เช่น คุณมิว เป็นต้น พอจะกล้อมแกล้มเป็นข้อแก้ตัวท่ีไม่เคยซื้ออะไรให้คุณมิวเลยได้มั้ยหนอ ดูเป็นคนเห็นแก่ตัวจังที่รับอยู่ฝ่ายเดียว แหะ แหะ

ไม่นาน แขกกลุ่มใหญ่ก็เข้ามาในงาน อิซาเบลอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศสจนโมนาได้ประกาศนียบัตร เพื่อนสุดตลกที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องแต่เป็น Managing Director ของบริษัทแห่งหนึ่ง แม่บ้านลูกหนึ่งชาวเวียดนามที่เคยลงเรียนคอร์สภาษาฝรั่งเศสพร้อมกับโมนาและกาสปาล ผู้ชายไทยชื่อฝรั่งเศสที่พาแฟนซึ่งฉันลืมชื่อไปแล้วมาด้วย สรุปได้จำนวนแขกของโมนาทั้งหมด 7 คนรวมฉันด้วย ไม่มากไม่น้อย ฉันเองยังอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเป็นงานวันเกิดฉันจะมีคนมาขนาดนั้นมั้ยนั่น อาจจะมีคนงง ฉันออกจะรู้จักคนเยอะแยะ แต่ฉันไม่ค่อยอยากบังคับใคร แล้วก็ไม่อยากจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแขกต่างกลุ่มทำความรู้จักกันเอง เพื่อนของฉันไม่ได้อยู่ในสังคมเปิดเหมือนกัน ความหลากหลายของเพื่อนฉันทำให้ฉันเลือกจะเป็นคนปรับตัวเวลาเจอเพื่อนแต่ละกลุ่มเอง

แม่ฉันก็บอกเหมือนกันว่าให้เชิญเพื่อนมาเที่ยวบ้าน รู้สึกจะมีแค่ป้าอู๋ พี่ิยิ้มและคุณมิวเท่านั้นที่เคยไปบ้านฉัน คุณมิวถือเป็นแขกในงานลอยกระทงที่ฉันเองยังรู้สึกว่าไม่ได้ดูแลเต็มที่ ด้วยมีญาติอีกหลายสายที่ต้องดูแล ฉันยังจำได้ว่าปล่อยให้คุณมิวนั่งอยู่กับญาติฉันคนเดียวตั้งนาน ดีที่เธอไม่ต้องยึดติดกับใคร อยู่ได้ด้วยตัวเองแถมยังทำหน้าที่ตากล้องกิตติมศักดิ์ให้อีกต่างหาก ฉันเลยได้รูปสวยๆ ไปอวดใครต่อใครอีกมากมาย

ฉันบอกแม่ไปว่า เพื่อนของฉันส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่เพื่อนสมัยเรียนก็จะเป็นผู้ใหญ่ชนิดที่ใหญ่จนเขาเหล่านั้นหรือจะมารวมตัวกันที่บ้านฉัน คนตัวเล็กนิดเดียว อีกทั้งถ้าเขาเหล่านั้นมา อาหารการกินก็ต้องทำแบบพิเศษ แม่ฉันไม่หัวใจวายตายกับราคาไวน์ที่ต้องนำมาบริการหรือนั่น

อะ กลับมาที่แขกเจ็ดคนในงานวันเกิดโมนาซะที อาจารย์อิซาเบลเกลียดเฟซบุคเป็นชีวิตจิตใจ มีการแลกเปลี่ยนความคิดกันเล็กน้อยแล้วฉันก็คิดได้ว่า หัวข้อสนทนาอื่นดูจะเหมาะกว่าเยอะ โชคดีที่ฉันมีอะไรเกี่ยวกับฝรั่งเศสเช่นเดียวกับเพื่อนกลุ่มนี้ เว้นแต่น้องเปิ้ลเท่านั้นที่ไม่ได้ร่วมวงสนทนา แต่น้องเปิ้ลก็อยู่ในกลุ่มผู้อยู่อาศัยในย่านที่ดี หลายคนอยู่แถวรัชดาแล้วเขาก็ชมกันเองว่าบ้านเขาอยู่ใกล้โพไซดอน เอ็มมานูเอล และสถานบันเทิงสำหรับผู้ชายที่เอาชื่อเทพกรีกมาตั้ง สรุปว่าวงสนทนานี้คนที่ "อิน" คือคนที่พูดฝรั่งเศสและอยู่รัชดา!!

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารมี 4 ภาษา ฮินดี ไทย อังกฤษและฝรั่งเศส โมนาเองคุยกับคนไทยด้วยวลีที่มีคำทั้งภาษาฝรั่งเศสและไทย ให้มั่วกันไปหมด เราคุยกันเรื่องความยากของภาษาฝรั่งเศสเทียบกับอังกฤษ ฉันโต้ทันควันว่า เพศหญิงและเพศชายในภาษาฝรั่งเศสยากที่สุดชัวร์ ทำไมโต๊ะต้องเป็นเพศหญิง(รู้สึกว่าไม่ table ก็อีกคำแหละที่เป็นเพศชาย) แล้วยังแก้วไวน์อีกต่างหาก ฉันคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นเพศอย่างที่มันเป็น

น้องชายของโมนาดูจะเงียบเหงาที่สุด ทุกคนเป็นเพื่อนของพี่สาว ก็มีฉันนี่แหละที่อาสาสนทนากับเจ้าบ้าน ได้หลักสูตรบริหารการหายใจตามหลักโยคะทั้ง 7 แบบ ให้น่าขันยิ่งนัก มีอยู่วิธีให้หายใจคลายสะอึก อีกวิธีให้หายใจเข้ารูจมูกซ้ายออกทางรูจมูกขวา

เราคุยกันสารพัดเรื่องจิปาถะ สุดแท้แต่จะขุดขึ้นมากล่าว ตั้งแต่ทุ่มครึ่งจนเกือบสี่ทุ่มก็ได้เวลารับประทานอาหารค่ำเสียที ทุกครั้งที่ฉันไปงานเลี้ยงที่บ้านโมนา ให้สงสารพนักงานเสิร์ฟยิ่งนัก น้องพนักงานต้องเสิร์ฟอาหารว่างเป็นรอบๆ ห้ามวางไว้บนโต๊ะเพื่อที่ใครใคร่หยิบก็หยิบเอง แถมแต่ละครั้งก็ใช้กระดาษทิชชูรองรับ แทนที่จะเป็นจานเล็กๆ เปลืองดีแท้ ไม่น่าเป็นวิถีของชาวอินเดียเลยให้ตายสิ

อาหารอินเดียก็อย่างที่รู้ๆ มีข้่าว แป้งแผ่่นๆ และแกงต่างๆ ฉันกินได้อยู่แล้ว แต่ขอร้องเถิด อย่าขะยั้นขะยอให้ฉันกินแล้วกินอีกเหมือนของว่างเลย หลายครั้งที่ความใส่ใจของเพื่อนชาวอินเดียกลายเป็นความอึดอัดที่ฉันปฏิเสธไม่ได้

ตบท้ายด้วยของหวานที่ฉันเลือกรับแต่ผลไม้ แถมก่อนจบด้วยการบอกบุญให้ช่วยกันสร้างโรงทานที่ฉันเป็นประธานหาทุน ฉันอีเมลรายละเอียดให้โมนาตามที่พ่อเธอขอไว้แล้ว ก็รออยู่ว่าครอบครัวของโมนาจะไปร่วมทำบุญวันที่ 6 ธันวานี้ด้วยกันหรือไม่ ฉันไม่ได้หวังอะไรนักหรอก คิดว่าการบอกบุญในวันเกิดของเพื่อนน่าจะเป็นการดี แต่ก็อดไม่ได้อย่างเคยที่กลัวคนจะมองว่ามารีดไถ เพราะจะว่าไปมันก็เป็นภาษีสังคมชนิดหนึ่งเช่นกัน

เที่ยงคืนกว่าๆ ฉันก็กลับถึงบ้าน ไม่ไปที่ไหนต่อ ตรงกลับบ้านทันที แต่แล้ววันนี้ฉันกลับต้องไปหาผู้ใหญ่ที่ร้านประจำกระทันหัน ท่านต้องการเสื้อเจ้าชายน้อยไซส์เอ็กซ์แอลด่วน ดูสิว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น แล้วฉันจะมาเล่าให้เธอฟังต่อนะ

ไม่มีความคิดเห็น: