วันพฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2553

จังหวะเวลา

กาละเทศะเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับฉันจริงๆ...

ในหนัง up in the air ที่เพิ่งดูน้องนาตาลีที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเด่นดังคิดระบบการไล่คนออกทางคอมพิวเตอร์แบบออนไลน์แทนที่จะบินไปยังบริษัทต่างๆ เพื่อจัดการกับเรื่องที่เซ้นซิทีฟมากๆ แบบตัวต่อตัว เวลาลาออกจากงานก็ส่ง sms ไปแทนที่จะส่งจดหมายลาออกด้วยตัวเอง พอๆ กับที่แฟนของน้องหนูก็บอกเลิกด้วย sms เช่นกัน

ตัวฉันเองก็ชอบส่งสารผ่าน sms เช่นกัน เจอคนที่เป็นเหมือนกันส่ง sms กันคราวเดียวร่วมร้อย เหตุผลของเขาคือ สามารถเอามาอ่านได้อีกครั้ง บางที่เข้าใจคลาดเคลื่อน ใจความตกหล่น เหมือนกับหลายๆ ครั้งที่อ่านหนังสือ เมื่ออ่านรอบที่สอง รอบที่สามก็จะเข้าใจเนื้อความได้ลึกซึ้งและถูกต้องมากขึ้น สำหรับฉันแล้ว การส่ง sms เป็นทางเลือกที่ฉันมักเลือกเวลามีเรื่องสำคัญและเซ้นซิทีฟ หรือถ้ากระทบความรู้สึกมากก็ไม่ส่ง sms ไม่รับโทรศัพท์มันซะเลย แต่ต่อมาก็พบว่า ปิดเครื่องดูจะดีที่สุด เพราะแปลว่าติดต่อไม่ได้ ไม่ใช่ติดต่อได้แต่ไม่ปรารถนาที่จะคุยด้วย

วันนี้ฉันส่ง sms ไปหาผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ฉันเบี้ยวนัดและไม่โทรกลับสองสามครั้ง ถามว่ายังโกรธฉันอยู่รึเปล่า และบอกเหตุที่ฉันไม่ได้ติดต่อกลับ ท่านตอบกลับด้วย emoticon รูปยิ้ม เรียบร้อยไปหนึ่งราย เดี๋ยวก็ค่อยๆ โทรกลับหรือ sms เจ้าอื่นๆ ต่อไป

หลายครั้งที่การสื่อสารของฉันทำให้คนเข้าใจผิดและโกรธอยู่พักใหญ่ บางกรณีที่เซ้นซิทีฟมากๆ อย่างรุ่นใหญ่อารมณ์แรง ฉันก็ได้แต่คอยให้เวลาผ่านไปสักระยะ เพื่อให้ความโกรธทุเลาเบาบางลงบ้าง เจอกันเมื่อวันก่อนทักทายตามปกติและกอดไปหนึ่งทีอย่างอ่อนโยน ยังไม่หายโกรธ วันนี้โทรไปหา ไม่รับ กำลังคิดว่าจะส่ง sms ไปดีหรือโทรไปวันพรุ่งนี้

คนที่เคยเห็นฉันเป็นคนพิเศษฉันก็ตัดสัมพันธ์ด้วยการไม่รับ ไม่โทรกลับ หนึ่งอาทิตย์เต็มๆ แล้วความเงียบก็เป็นคำตอบสุดท้าย แล้วเมื่อเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ อารมณ์ยังคุกรุ่นอยู่ กล่าวคำที่ดูถูกแบบดูฉันผิด แต่ฉันก็ไม่โกรธเพราะถือหลักว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องโกรธเพราะเขาพูดถูก แล้วก็ไม่ได้เจอกันอีกนานนนน เจออีกครั้งก็หลังจากติดต่อธุระทางโทรศัพท์ เหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติคุยเรื่องงานและเรื่องหมอดูที่เขาแอบพาสาวไปพบ ได้ความว่าสาวคนนั้นมีดาวได้ตำแหน่งเป็นคุณกับเขา ฉันก็เชียร์เต็มที่ หวังแต่ว่าเขาคงเห็นแววตาใสๆ ของฉันที่ไม่ได้มีความรู้สึกขัดเคืองแต่อย่างใด

มีใครอีกล่ะที่ฉันมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร กับคนที่รักฉันมากที่สุดก็พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ นานๆ เจอทีก็เลยสรรหาแต่เรื่องดีๆ มาคุยกัน ไม่ได้บ่นเหมือนจับผิดเหมือนเคย ส่วนคนที่ตั้งใจเอาชนะคนสำคัญคนนั้น ฉันยังไม่ได้ทำตามคำแนะนำของพี่ผู้หวังดีเสียที ยังผัดผ่อนไปเรื่อยๆ เหมือนจะรอจังหวะที่เหมาะที่สุด กรณีนี้ต้องดูกาละเทศะอย่างที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น: