วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

ฟ้าเริ่มใส...ไฟส่องทาง

วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันรู้สึกว่ากลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม...ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา...

แม้จะตื่นนอนตั้งแต่ตีสองคุยเรื่องราวนัดหมายเสียงดังตามสไตล์ แล้วก็นั่งดูข่าวติดตามข่าวสารบ้านเมืองแบบที่ปกติก็ไม่เคยจะไปสนใจอะไรนัก แวะเข้าไปดูข้อมูลของคนโปรดฉันตามเว็บต่างๆ มาสะดุดที่หนังเรื่องโปรดของท่านนายกฯ สองเรื่องคือ แบทแมนภาคแรก กับเอ็ดเวิร์ดซีเซอร์แฮนด์ ไปจนถึงความหมายคำว่า mob psychology แล้วก็คิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย วิเคราะห์วาดภาพแล้วก็สรุปเอาเอง(เพราะไม่ได้คุยกับใคร)

ฉันละอยากพูดเก่ง สุขุม นิ่งแบบท่านนายกฯ จริงๆ คนอะไรทำอะไรก็ดูดีดูมีกึ๋นไปหมด เฮ้อ!

จากเรื่องการเมือง มาเรื่องปากเรื่องท้องกันบ้าง วันนี้ตั้งใจไปซื้อผักเพราะของสดยังแช่แข็งเต็มตู้เย็น น่าแปลกที่วันนี้ฉันอยากกินของหวาน เลยซื้อมาทั้งฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ปลาหมึกแผ่นอบกรอบและสตอเบอร์รี่อีกนิดหน่อย เพิ่มเติมจากผักและเครื่องปรุงต่างๆ กินได้อีกเป็นอาทิตย์ล่ะคราวนี้

ฉันตั้งใจเอารถไปล้างแต่ลืมเอามือถือไป ส่วนลดพิเศษจากบริการเอไอเอสเลยอดไป ใช้วิธีขัดสีรถไปเลยละกัน ขัดได้ฟรีอีก 4 ครั้ง เพราะเหตุนี้จึงใช้เวลาถึงชั่วโมงครึ่งแต่ฉันกับคนข้างๆ ซื้อของกันเสร็จเพียงชั่วโมงเดียวเลยมานั่งดูโน่นดูนี่อยู่หน้าร้านบู้ท ดูพนักงานเก็บเศษกล่องและกระดาษ ดูคนเดินผ่านไปมา ดูโครงสร้างของอาคาร และสารพัดจะดูตามแต่จะมีอะไรผ่านมาให้ดู หรือสายตาชอนไชเข้าไปเห็น มุมมองของคนมันก็ต่างกันไปตามสิ่งที่สนใจ คนข้างๆ ก็วิจารณ์การแต่งตัวของพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารใกล้ๆ แล้วก็ร่ายยาวไปจนถึงประวัติของเจ้าของร้าน ความเป็นมาซึ่งสะท้อนออกมาเป็นรูปร่างและเครื่องแบบของพนักงานเสิร์ฟเลยนั่น

ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันจะมีอะไรให้พูดกันตลอดแบบนี้ ไม่เคยต้องใช้เวลาอยู่กับใครมากมายจนคล้ายว่าตัวจะติดกัน ฉันแปลกใจจริงๆ ที่ฉันไม่ได้รำคาญหรือเบื่อจนทนไม่ไหว ฉันนั่งทำคอมไป เขาก็นั่งดูทีวี หรือไม่ก็ทำกับข้าว ล้างจาน

เขาคงต้องทำกับข้าวไปตลอดนั่นแหละ เพราะนอกจากลาซานญ่าที่เขาติดใจจนกินหมดกล่องวันนี้แล้ว ก๋วยเตี๋ยวผัดที่ฉันทำ เขาก็กล้ำกลืนกินได้มื้อเดียว ฉันเองยังกินได้พอเป็นพิธีเหมือนกัน เฮ้อ! ฝีมือตกไปมากเลยเนี่ย สมัยเรียนปริญญาโท ฉันทำกับข้าวให้เพื่อนๆ กินกันทุกวัน เขาก็กินกันได้นี่นา

กลับเข้าบ้านได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นนิมิตหมายที่ดีว่าคราวนี้ต้องลุย จะต้องเจอเรื่องจุกจิก เรื่องเอกสารต่างๆ ที่ต้องแก้ต้องปรับ แล้วเสาร์อาทิตย์ก็เป็นเรื่องงานที่ออกสู่สายตาสาธารณชน ต้นอาทิตย์หน้าเป็นเรื่องตกแต่งต่อเติมและสะสางเรื่องบัญชี ตัวเลข เอกสารให้เรียบร้อย พร้อมกับเริ่มขายโครงการยกสอง ขอร้องอย่าดาวน์โดยไม่ทันได้ตั้งตัวอีกนะ

แปลหนังสือจบในที่สุด จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ได้นะ งานละเอียดยิบ ตรวจคำผิด สรรพนามที่ใช้ ใส่ลงตามช่องแต่พอเสร็จแล้วก็ชื่นใจ มีลูกคนที่สี่ คงพอแล้วล่ะ ฉันคงไม่เหมาะกับการแปลเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ร่ายเองหรือหาข้อมูลดูจะถนัดกว่านา

วันดีๆ เริ่มกลับคืนมาแล้ว ฉันจะพยายามจับมันไว้ให้มั่น หรือถ้าอะไรมาพรากจากไปก็จะยื้อยุดฉุดแย่งสู้กันสักตั้งล่ะทีนี้!!

ไม่มีความคิดเห็น: