วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ร้านหนังสือที่ทำด้วยใจ

แม้ต้นสายปลายเหตุที่นำฉันให้มารู้จักร้านหนังสือร้านนี้จะไม่ได้เป็นแบบเดินอยู่ในมอลล์เล็กๆ แล้วก็มาเตะตากับร้านที่ถูกใจ กลับมาจากความอยากรู้อยากเห็นเมื่อได้พูดคุยกับเจ้าของร้านและผู้ดูแลร้าน ความเป็นตัวตนของคนสะท้อนมาจากสิ่งที่แสดงออก ความคิด ปฏิกิริยาตอบกลับ การแก้ป้ญหา วิธีการพูดจา

แล้วฉันก็คิดว่า "ฉันเจอพวกเดียวกัน" (เขาจะนับฉันเป็นพวกเดียวกันมั้ยนั่น)




ร้านนี้มีสองชั้น ชั้นล่างด้านซ้ายก็เป็นอย่างรูปแรกที่เธอเห็นนั่นละ แล้วถ้าเดินเข้าไปข้างในตรงช่องที่ข้างบนเขียนชื่อร้าน Bookmark ก็จะเป็นโซนสำหรับเด็ก มีหนังสือสำหรับขาย และ หนังสือเชิญอ่าน เนื่องจากเจ้าของร้านเคยทำโรงเรียนอนุบาลจึงไม่ได้จัดร้านหนังสือแบบธุรกิจ จัดแบบให้ถูกใจคนรักหนังสือ คนที่มีความสุขที่จะใช้เวลากับหนังสือที่ชอบ ไม่ใช่ประเภทที่มาแอบอ่านหนังสือจนจบเล่ม ทำให้เจ้าของร้านหนังสือต้องคอยถือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นไล่ให้ออกจากร้านเหมือนในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น

ร้านนี้มีมุมที่ทำให้ฉันนึกถึงห้องสมุดสุดเลิฟในใจฉัน ห้องสมุดนีลเซนเฮล์(Neilson Hays Library) ฉันแอบบอกเจ้าของร้านว่า ฉันอยากจะมานั่งอ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟังในโซนหนังสือสำหรับเด็กและขอนำหนังสือที่ฉันเคยซื้อไว้สมัยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษและตั้งใจจะสะสมไว้สำหรับเปิดห้องสมุดในโรงเรียนอนุบาล (แต่ฝันดังกล่าวหาได้กลายเป็นจริงไม่) มามอบให้ร้านนี้ เพราะฉันอยากให้หนังสืออยู่ในที่ๆ จะได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่นั่งเหี่ยวแห้งเฉาตายอยู่ในตู้หนังสือของฉัน หรือถูกส่งไปยังดินแดนห่างไกลแต่ไม่มีผู้สามารถแนะแนวให้เห็นความงาม ความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวหนังสือ

และฉันก็พบที่ๆ เหมาะกับหนังสือของฉันแล้ว...



เมื่อออกจากโซนหนังสือเด็กซึ่งอยู่ด้านซ้ายสุดของร้าน

เดินผ่านเคาน์เตอร์จ่ายเงินก็จะเจอโต๊ะสำหรับนั่งอ่านหนังสือ และโซนหนังสือดีไซน์ ที่นี่ไม่ใช่ดูดีแต่การดีไซน์ร้านนะเธอ ชื่อหมวดหมู่หนังสือก็แตกต่างไม่เหมือนทั่วๆ ไป เช่น เรื่องคนเล่า ไม่กินก็เที่ยว อยากธรรม เป็นเรื่อง ย้อนอดีต ทันคน ทันคอมฯ ...
ขวาสุดเป็นบานกระจกทั้งบาน มีโต๊ะเล็กๆ พร้อมชุดหมากรุกแก้วเจียรนัยน่าหัดเล่นมาก...(เพราะฉันเล่นเป็นแต่หมากฮอต)
และเรื่อยขึ้นบันไดไม้โปร่งไปยังชั้นที่สองของร้าน ก็จะพบบริเวณที่กำลังจัดนิทรรศการหนังสือที่เลือกอ่านของคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน แผนที่สถานศึกษาข้างรูปวาดคุณอภิรักษ์บนพื้นสีส้มบอกเล่าเส้นทางการศึกษาในแต่ละช่วงชีวิต มีหนังสือที่คุณอภิรักษ์เลือกอ่านพร้อมคำอธิบายสั้นๆ วางอยู่ที่ชั้น Display ข้างๆ ฉันคงต้องกลับไปที่ร้านหนังสือแห่งนี้อีกหลายครั้งหลายครา แล้วคงจะได้มองและเก็บรายละเอียดที่น่าสนใจของร้านที่หาได้ยากยิ่งร้านนี้อย่างแน่นอน



ฝั่งตรงข้ามบริเวณที่จัดนิทรรศการย่อยนี้ มีมุมนั่งอ่านหนังสือและต่อไปถึงโซนหนังสือเก่าที่เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า กำลังจะเปิดให้บริการพิเศษกับลูกค้าของร้านนำหนังสือเก่ามาเป็นส่วนลดแลกหนังสือใหม่ โดยจะนำหนังสือเก่ามาขายชั้นบน ร้านนี้จึงกำลังจะกลายเป็นร้านหนังสือมือสองกับเขาด้วย

ร้านนี้จะเป็นมุมที่ฉันจะเลือกแวะมา เมื่อต้องการความสงบในบรรยากาศแบบมีสไตล์ มาหาหนังสือที่ถูกใจ นั่งอ่าน พักสายตามองวิวถนนทองหล่อที่พลุกพล่าน และถ้าเกิดอาการหิวแบบคุ้มที่จะกินอาหารบุฟเฟ่ต์ ฉันก็จะเดินข้ามซอยทองหล่อ 10 ไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นที่ร้านโออิชิ หรือถ้าต้องการเติมพลังไม่ให้ท้องว่างจนเกินไป ฉันก็จะเลือกนั่งในบรรยากาศสบายๆ ของร้านนางกวักทานลาซานญ่าของโปรดพร้อมกับดูตุ๊กตาเซรามิคสีขาวรูปผู้หญิงกำลังกวักมือเรียกคนเข้าร้านที่ติดอยู่กำแพงเป็นแผงสวยถูกใจเหลือเกิน ที่สไบของนางกวักแต่ละนางมีข้อความมงคลไม่ซ้ำกัน "ขอให้สุขภาพดี" "ขอให้ไพรีพินาศ" ฯลฯ (เธออย่าถือสาฉันเลยนะ ถ้าฉันพูดอะไรผิด เพราะเล่าจากภาพในความทรงจำ ข้อความที่เห็นอาจจะไม่ถูกเป๊ะ แต่ได้ความรู้สึกประมาณนั้นแหละ)

ไม่แค่นั้น ที่ชั้นสามเหนือร้านหนังสือขึ้นไปอีกนิด เป็นร้านนางกวัก open air โต๊ะอาหารตั้งอยู่ในสวนที่ลาดขึ้นเล็กน้อย ฉันยังไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารในบรรยากาศนั้น แต่เชื่อว่าคงไม่พลาด โดยเฉพาะถ้าโชคดีมีหนุ่มยินดีไปเป็นเพื่อนฉัน :)
ใครสนใจภาพหลากมุมที่ทำด้วยใจของร้านหนังสือแห่งนี้ scroll down ไปท้ายหน้าแรกนะจ๊ะ อยู่ก่อนหน้าทัวร์อิหร่านโดยณัฐพัดชาจ้ะ

1 ความคิดเห็น:

grappa กล่าวว่า...

วันไหนแวะไปแถวทองหล่อ
ต้องแวะไปดูเสียแล้ว