วันนี้มีหลายๆ เรื่องที่ผ่านเข้ามาดลใจให้ฉันอยากเขียนหนังสืออีกหนึ่งเล่ม...
นานแล้วที่ฉันไม่ได้คุยกับพี่ชายแสนดีอีกคนหนึ่ง หากใครได้มาอ่านบทสนทนาหนนี้แล้วจะต้องหันมามองหน้าฉันด้วยสายตาตำหนิอีกตามเคย ประมาณว่า ทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักวางตัวให้เหมาะสมอีกตามเคย
เร่ิมตั้งแต่คุยเรื่องทะลึ่งลามก เอารูปที่ตัวเองคิดว่าเซ็กซี่ส่งให้ผู้ชายที่มีภรรยาแล้วดู แถมมีการแกล้งขู่กันเองว่าเป็นการมีกิ๊กออนไลน์
ฉันยังบ่นไม่หายถึงข่าวลือข้ามโลกเรื่องการประพฤติตัวไม่เหมาะสมของฉันในหมู่รุ่นพี่และเพื่อนผู้ชาย ภาพลักษณ์ลวงตานี้ทำไมมันถึงได้หนามากนัก แล้วฉันก็ได้เห็นตัวอย่างละครเรื่องใหม่ มาลัยสามชาย จากปลายปากกาของว. วินิจฉัยกุล ได้อ่านคำวิจารณ์และมุมมองที่นำเสนอแล้วก็ให้คันไม้คันมือคันปากขึ้นมาทันใด
"กะอีแค่ผู้หญิงคนนึงแต่งงานสามครั้ง ต้องเล่าเรื่องอ้างอิงมากมายเพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับว่าเป็นผู้หญิงที่ดีงั้นเหรอ? คนที่ล้มเหลวในชีวิตคู่ต้องโดนตราหน้าไปทั้งชีวิตหรือไง ฉันว่ามันน่าจะหมดสมัยได้แล้วนะ"
ลอออรเป็นผู้หญิงที่เกิดสมัยรัชกาลที่ห้า เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงห้าแผ่นดิน เธอกล้าก้าวออกจากชีวิตการแต่งงานครั้งแรกอย่างอาจหาญ การแต่งงานครั้งที่สองและสามก็ได้แต่งงานกับคนที่มีคุณสมบัติดีพร้อม อันเป็นโชคดีอย่างเหลือเกิน คิดดูว่ากรณีนี้เธอยังโดนวิพากษ์วิจารณ์ขนาดหนัก แล้วผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ใช่นางเอกละครอย่างฉันจะมีโอกาสได้เงยหน้าเงยตาในสังคมหรือ
ฉันว่าเวลาก็ผ่านเลยมาเนิ่นนาน แต่ค่านิยมและกรอบของสังคมในเรื่องนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปสักเท่าใด แม้คนไทยจะมีอัตราการหย่าร้างสูงขึ้นเรื่อยมา คนครองตัวเป็นโสดมากขึ้นแต่ผู้หญิงที่เคยแต่งงานแล้วก็ยังโดนมองเป็นของเสียอยู่ดี
มีคนชอบฉันและยอมรับได้แต่กลัวว่าที่บ้านจะไม่ยอมรับ มีคนที่ชอบฉันแต่ยอมรับไม่ได้หวังเพียงให้ฉันเป็นสมบัติชิ้นหนึ่งที่ห้ามออกโชว์ มีคนที่คิดว่าฉันเป็นแม่ม่ายขาดรักอย่างหนักน่าจะเอาไว้หลอกใช้ มีคนที่ดูฉัน ดูแล้วดูอีก ทำท่ายึกยักกล้าๆ กลัวๆ แล้วเมื่อเสียไปแล้วก็รู้สึกว่าน่าจะมีค่าควรแก่การพิจารณาในขั้นต่อไป
มีคนที่แตกต่างจากฉันในหลายๆ เรื่องออกจะไปในทางที่ด้อยกว่าฉันเสียด้วยซ้ำแต่ไม่กล้าคบกับฉันอย่างเปิดเผย มีคนที่อยากควงฉันแบบชั่วคราวแต่กลัวฉันจะกัดไม่ปล่อย มีคนที่อยากจะเลี้ยงดูฉันเป็นเรื่องเป็นราวคิดว่าคนอย่างฉันไม่มีทางเลือก อยากให้มีคนเลี้ยง
มีคนที่ฉันรับไม่ได้ เขารับฉันไม่ได้ ความสัมพันธ์จึงจบลงในที่สุด แต่ผู้ชายจะเคยคบกับใครมากี่มากน้อยก็ไม่เป็นเรื่องเสียหาย ผู้หญิงที่จริงใจ จริงจังเกินไปกลายเป็นผู้หญิงหน้าด้านทำตัวไม่มีคุณค่า ทำให้ผู้ชายกลัวต้องหลีกไกล
มีคนดีๆ ที่เข้ามาสนใจคบหา ไม่ลงตัวไม่เป็นไร เป็นเพื่อนกันเฉยๆ ก็ได้ แต่พอไม่ลงตัวแล้วก็ตัดสัมพันธ์ ไม่สามารถคบหากันในส่วนที่เข้ากันได้ดีได้ ซึ่งฉันก็เข้าใจ ฉันเป็นเพื่อนกับใครแฟนของผู้ชายคนนั้นก็ไม่สบายใจซะส่วนใหญ่ มีอยู่รายที่ฉันรู้สึกว่าเวลาจะทำให้เขาเข้าใจว่าฉันเป็นคนที่อยากทำอะไรให้ชัดเจนแต่ไม่เคยคิดว่ารูปแบบความสัมพันธ์ที่เหมาะสมสำหรับคนที่เคยคิดเป็นแฟนกันจะเป็นได้แค่เป็นแฟนหรือเลิกคบกันไปเลย
มีผู้ใหญ่อายุหกสิบกว่าอยู่หนึ่งท่านที่เป็นมาลัยสามชายแต่ไม่สมบูรณ์แบบเหมือนในละคร ชายแรกแต่งงาน ชายคนที่สองลักลอบ ชายคนที่สามคบหาอย่างเปิดเผย แต่คนสำคัญในชีวิตของฉันก็เข้าใจและยอมรับในตัวตนของเธอ ในขณะเดียวกันก็ยอมรับความเป็นฉันไม่ได้ ยังไงเสีย ฉันก็วางตัวไม่เหมาะสม...
คงมีหลายคนที่รอสมน้ำหน้าอยู่หากชีวิตคู่ของฉันครั้งนี้ก็ไปไม่รอดในที่สุด มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ฉันไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับฉันเลย ทำไมฉันถึงได้เริ่มกลัวว่าจะต้องสูญเสีย กลัวว่าจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด กลัวว่าจะเปลี่ยนไป หากมีปัจจัยอื่นมากระทบแล้วมันจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง
ฉันนึกถึงคนไข้ของคุณหมอเฮ้าส์อยู่ตอนนึงที่มาโรงพยาบาลพร้อมกับสาวคราวลูก แต่พอตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน คนที่อยู่เป็นกำลังใจและช่วยเหลือ ตัดสินใจเรื่องความเป็นความตายกลับเป็นภรรยาเก่าคู่ทุกข์คู่ยาก พอหายดีแล้วก็กลับไปอยู่กับสาวรุ่นดังเดิม
ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากฟันฝ่าอุปสรรคด้วยกันมา พอร่ำรวยมีฐานะ ภรรยาก็รับหน้าที่ช่วยงานไป แต่เวลาแห่งความสุขกลับไปอยู่กับเด็กผู้หญิงหน้าตาสะสวยที่อยู่ด้วยเพราะเงิน เราว่ากันว่าผู้ชายเห็นแก่ตัว แล้วผู้หญิงล่ะ พอมีลูกก็ไม่สนใจสามี ไม่ทำตัวให้น่ามองเพื่อเอาใจผู้ชาย นี่แปลว่าผู้หญิงเห็นแก่ตัวด้วยรึเปล่า
ยังไง ผู้ชายกับผู้หญิงก็ไม่มีวันเท่ากัน ข้อได้เปรียบที่ผู้หญิงเคยได้ก็ไม่อยากเสียไป เรื่องใดที่ตนเสียเปรียบแต่เดิมก็ยังคงเรียกร้องความเท่าเทียมอยู่เรื่อยมา
ทำไมนะฉันถึงได้นึกถึงมาร์จี้คนนั้นเสียเหลือเกิน
วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น