วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553

ตามใจฝันกันกับร้านอาหารหู (rharnhoo: follow your passion)

อาหารหูอิ่มทั้งหูอิ่มทั้งตา

เดินจากมาพร้อมของล้ำค่า

ในสายตาผู้รู้คุณอุดหนุนคนไทย

ร้านอาหารหู [www.rharnhoo.com] สำหรับฉันแล้วเธอเป็นดั่งดอกไม้ที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ ก้านดอกพุ่งผ่านชั้นน้ำแข็ง ชูดอกเด่นบนพื้นสีขาวโพลน ดอกไม้คงหนาวแต่ก็ยังพอมีน้ำหล่อเลี้ยง มีดินใต้น้ำแข็งที่พอประทังให้ยืนหยัดในทุ่งร้างเวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา หากแต่ไม่รู้ว่าจะทนหนาวเหน็บได้อีกนานสักเพียงใด...

คุณป๊อก เจ้าของร้านเล่าให้ฟังด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ร้านอาหารหูแห่งนี้เป็นร้านเดียวในโลกที่ขายหนังไทยลิขสิทธิ์เท่านั้น อย่างไรก็ดี ทุกกฏเกณฑ์ ทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้น หนังไทยที่เก่าหาไม่ได้อีกแล้วเจ้าของร้านก็ไรท์ลงแผ่นขายเพื่อที่อย่างน้อย คนรุ่นหลังหรือนักสะสมจะได้สัมผัสกับผลงานที่รังสรรค์โดยคนไทยด้วยกัน

อันที่จริงแล้ว ทางร้านก็ขายซีดีเพลงลิขสิทธิ์ด้วยเหมือนกันเพียงแต่เอกลักษณ์ของร้านคงเป็นเรื่องของหนังที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนความคิดของคนส่วนใหญ่ในสังคม

ฉัน จอดรถที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ โทรเข้ามือถือของร้าน 0853296996 สอบถามทางไปตะวันนาสแควร์อันเป็นที่ตั้งของร้านขายหนังไทยที่เป็นจุดหมาย ปลายทางหลักของการเดินทางในวันนี้

เสียงผู้หญิงตามสายอธิบาย ที่ตั้งของร้านอยู่หลายรอบ คงจะหงุดหงิดอยู่พอสมควร แต่อย่างน้อยลูกค้ารายนี้ก็อุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์หลายแผ่นเหมือนกัน ตอนแรกฉันกับคนข้างๆ คิดว่าจะไม่แวะไปร้านนี้แล้ว เพราะตอนที่โทรถามที่ตั้งร้านฉันก็ย้ำอีกทีว่าต้องการซื้อหนังเรื่องอะไร กลายเป็นว่าต้องสั่งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวัน หนังที่ฉันต้องการเป็นหนังที่เข้าฉายในโรงหนังตั้งแต่ฉันอายุ 2 ขวบ ยุคที่ใครคิดจะดูหนังก็ต้องเข้าไปดูที่โรงหนังเท่านั้น แผ่นที่ฉันถามหาจึงเป็นแผ่นที่จำเป็นต้องก๊อป แต่การตัดสินใจไปร้านอาหารหูทั้งๆ ที่รู้ว่าแผ่นที่อยากได้ไม่มีก็ทำให้ฉันได้ของหายากกลับบ้านไปนั่งดูจนตาแฉะ อีกครา

จากสะพานควายไปเดอะมอลล์ บางกะปิ ผ่านถนนพระราม 9 ไปแยกลำสาลี ไกลโขอยู่ ครั้งจะกลับมามือเปล่าก็เสียดายค่าน้ำมัน แม้จะได้หนังฝรั่งจากร้านแมงป่อง(ร้านที่อยู่ในตัวห้างเดอะมอลล์ไม่ใช่ร้าน ที่ตั้งอยู่เอกเทศในศูนย์การค้า)ที่ขายลดจนฉันว่าอาจจะถูกกว่าแผ่นก๊อปบาง ร้าน ราคาต่ำสุดอยู่ที่แผ่นละ 79 บาท ซื้อ 5 แผ่นแถม 1 แผ่น หรือจะซื้อ 9 แผ่นจะได้อีก 2 แผ่นรวมเป็น 11 แผ่นพอดี

ฉันประทับใจพนักงานขายมาก ทั้งสองสาวดูหนังแทบจะทุกเรื่องละมัง สามารถแนะนำหนังให้ฉันได้เป็นอย่างดี หนังที่ซื้อมาวันนี้มี

The Shipping News

Frida

Children of Heaven

The Phantom of the Opera

Talk to Her

Departures

Agora

Tokyo Sonata

Evita

Love's Labour's Lost

The Upside of Anger

The Legend of 1900

ช้อป หนังฝรั่งก็ถึงคราวหนังไทย สาวที่ฉันได้ยินเพียงเสียงแนะให้ฉันขับรถไป บอกว่าเดินก็คงเหนื่อย แต่พอฉันถามคนขายหนังฝรั่งที่ฉันอุดหนุน เธอก็บอกว่าให้เดินตัดทางด้านหลังก็ดีจะได้ไม่ต้องอ้อมและทางนั้นสั้นกว่าเยอะ ฉันและคนข้างๆ เดินออกจากบริเวณกึ่งกลางของห้างลัดเข้าไปในตะวันนา ถามพ่อหนุ่มเจาะหูเป็นรูเบ้อเริ่มที่ร้านขายกางเกงยีนส์ถามทางเพื่อยืนยัน ความคิดของฉันอีกครั้ง

ปัญหาเริ่มมาแล้ว...

คนที่อยู่ข้างๆ อยากเดินเลียบถนนผ่านตะวันนาและแมคโครเข้าตะวันนาสแควร์ ส่วนฉันอยากลองทางลัดริมคลองตามที่คนขายกางเกงยีนส์แนะ ก็ฉันฟังมาว่ามันสั้นกว่านี่นา รุ่นหญ่ายเลยต้องตามใจเด็ก เดินเลียบ คลองแสนแสบด้านหลัง ทนกลิ่นน้ำเน่าที่โชยมาพักๆ ตามลม ผ่านตึกแมคโครก็เลี้ยวขวาเข้าด้านหลังตะวันนาสแควร์ ฉันชักจะเริ่มไม่แน่ใจว่าจะใช่รึเปล่า!

ตึกร้างซอยเป็นห้อง เล็กๆ บ้างก็ไม่มีประตูเหล็กม้วน บ้างก็ว่างโล่งเห็นพื้นกระเบื้องที่สลับลายแสดงพื้นที่ของแต่ละห้อง บริเวณนั้นมีแต่หมาเดินไปมา คนแต่งตัวเซอร์ๆ สองคนเดินไปเรื่อยๆ ในใจฉันยังต้องการพิสูจน์ว่า เดินทางไหนใกล้กว่ากันๆ แน่ คนที่อยู่ข้างๆ ก็ยังยืนยันความคิดของตัวเองเหมือนๆ กับฉัน

เราเดินกันไปได้ ครึ่งทางแล้วก็เจอร้านอาหาร มีผู้ชายใจดีคนหนึ่งนั่งฟังอะไรก็ไม่รู้ เสียงจากลำโพงดังจนน่ารำคาญ ที่ฉันบอกว่าใจดีก็เพราะเขาเดินไปส่งเราสองคนถึงร้านอาหารหู ฉันว่า คงเป็นเพราะคนที่ยังเช่าร้านที่ตะวันนาสแควร์อยู่ทั้งๆ ที่เป็นห้างร้างมีเหลือเพียงไม่ถึง 10% ไม่เกิน 10 ร้าน พวกน้อยก็รักกันมากเป็นธรรมดา...

ร้านขายแผ่นหนังแห่งนี้เป็น ร้านเล็กๆ เนื้อที่ขนาดไม่เกิน 20 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยสินค้าและแผ่นโปสเตอร์หนังเก่าที่ฉันเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก คุณป๊อกหนุ่มเจ้าของร้านกล่าวต้อนรับ ให้ความเป็นกันเองกับแขกรายแรกของวันเป็นอย่างดี เขากับคนที่อยู่ข้างๆ ฉันคุยกันออกรสเหมือนรู้จักกันมาเป็นสิบๆ ปี พูดเรื่องคนนั้นคนนี้ในวงการ เล่าเรื่องราวส่วนตัว ผลงานในอดีตและอื่นๆ สุดแต่จะขุดขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง แม้แต่เคล็ดลับในการป้องกันและเช็คว่ามีเทปปลอมในตลาดมากน้อยเพียงใด ส่วนฉันเดินรอบร้านดูนั่นนี่ เลือกซื้ออยู่คนเดียวแล้วก็นั่งดูแคตตาล็อกปกหนังที่มีอยู่กว่า 10 อัลบั้ม สะดุดใจที่มีอัลบั้มเฉพาะของจารุณี เป็นอัลบั้มเดียวที่ฉันเห็นแต่ไม่ได้เปิดดู

คุณป๊อกชวนฉันคุย สนใจคำถามที่ฉันปรึกษาคนที่อยู่ข้างๆ ให้ความสำคัญแม้ว่าฉันจะก้มหน้างุดๆ นานๆ ก็ชูนิ้วอุ๊บอิ๊บขอถามขัดจังหวะการสนทนาเป็นพักๆ ฉันขออนุญาตถ่ายรูปเอามาลงในบล้อกและเฟซบุคก่อนที่จะกระทำการใดๆ อันอาจทำให้เจ้าของร้านขุ่นเคือง ก็ฉันมันเป็นคนจำพวกคิดไม่เหมือนคนอื่นเลยไม่แน่ใจว่าเขาจะโอเคกับความหวัง ดีของฉันรึเปล่าน่ะสิ

ฉันไม่เล่าให้ฟังหรอกว่าซื้อหนังอะไรมา บ้าง อยากให้เธอลองไปดูที่เว็บของร้าน สั่งซื้อผ่านเว็บได้เลยนะ โอนเงินได้ด้วยความมั่นใจไม่โดนเชิดเงินแน่นอน (อยู่ดีไม่ว่าดี ไปรับประกันให้เขาอีก เฮ้อ!)

ก่อนกลับ ได้คำตอบที่ไม่รู้ว่ารักษาน้ำใจลูกค้าไม่ให้ขัดใจกันรึเปล่าว่า มาทางถนนใหญ่หรือเลียบคลองสั้นกว่ากัน คุณป๊อกมองแบบแล้วตรูจะตอบว่ายังไงดีหว่า แล้วก็ตอบว่า เท่ากัน จะเท่าไม่เท่าไม่รู้ ขากลับเราเดินเลียบถนนแวะร้านเซเว่นซื้อน้ำได้เดินตามทางที่เราทั้งสอง ต้องการในที่สุด

คุณป๊อกรับธนบัตรที่คนที่อยู่ข้างๆ ยื่นให้แล้วแตะไปทั่วๆ อย่างที่คนขายของทั่วไปเขาทำกันเวลาขายสินค้าให้ลูกค้ารายแรกของวัน ฉันหวังว่า เขาจะได้ลูกค้าที่เห็นคุณค่าหนังไทยและยินดีฝืนกระแสซื้อแผ่นลิขสิทธิ์ที่ ร้านแห่งนี้ เพื่อให้ดอกไม้พันธุ์ที่ไม่คิดว่าจะเคยมีและยังมีหลงเหลืออยู่พันธุ์นี้ได้ยืนหยัดอยู่ต่อไป

ขอให้การยึดมั่นในอุดมการณ์ที่ดูเหมือนคนโง่ในสายตาหลายๆ คนเป็นความสุขที่่เขากล้าใฝ่หาต่อไป...

ดูรูปเพิ่มเติมตามลิงค์นี้เลยนะเธอ

https://www.facebook.com/album.php?aid=81585&id=1045874997

ไม่มีความคิดเห็น: