วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2552

หรือว่าเป็นคู่...ชีวิต (10)

นพนาศเสิร์จหาข้อมูลของศรุตจนเกือบเช้า...

หล่อนไม่คิดว่าจะพบข้อมูลอื่นใดของเขาอีก เพราะหล่อนก็หามาหลายครั้งหลายครา ทุกครั้งหล่อนเสิร์จผ่านกูเกิ้ล แต่หนนี้หล่อนใช้ยะฮู ยะฮูพาหล่อนไปยังข้อมูลที่หล่อนหามานาน...บทความของเขาในวารสารกล้วยไม้

หล่อนเรียนรู้จากบทสัมภาษณ์ภรรยาเก่าของเขาแล้วก็ได้มาอ่านบทความจริง หล่อนเห็นเขาย่อหน้าบ่อยๆ มีการเปรียบเทียบเยอะๆ อ้างอิงเหตุการณ์ปัจจุบันเพื่อทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึกร่วมและบทความดูสดใหม่เมื่อได้อ่าน

หล่อนชอบสไตล์การเขียนของเขา ศรุตวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นผ่านการค้นคว้าข้อมูลทุกแง่ทุกมุม เขามีความรู้หลายแขนง บางบทความของเขาก็ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกล้วยไม้ แต่เขาก็เขียนและโยงให้เข้ากับเรื่องกล้วยไม้ได้ในที่สุด

นพนาศถึงกับเพิ่มลิงค์เว็บไซต์บทความของเขาในออโต้ฟีด(auto feed) เพื่อที่หล่อนจะได้อ่านบทความใหม่ๆ ของเขาทุกครั้งที่เข้าอินเตอร์เน็ต

วันนี้ยังไม่มีข้อความใหม่...

ในความคิดคำนึงของนพนาศ หล่อนยังคงจินตนาการสารพัดอย่างเกี่ยวกับศรุต เขารวยพอที่จะไม่ต้องมานั่งเขียนบทความในหนังสือพิมพ์กล้วยไม้นานาชาติออคิดแลนด์(Orchid Land)หนังสือพิมพ์รายวันเกี่ยวกับกล้วยไม้แห่งเดียวในโลก สำหรับนพนาศแล้ว หล่อนทึ่งในความสามารถในการใช้ภาษาของเขาอย่างยิ่งยวด "เขาต้องรักการเขียนเป็นชีวิตจิตใจอย่างแน่นอน" หล่อนรำพึงและยิ้มอย่างพอใจกับตัวเอง

แล้วจินตนาการของนพนาศก็พาหล่อนบินกลับไปที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง แหวนเพชรสีชมพูล้อมเพชรขนาด 1.06 กะรัต ราคาป้ายติดไว้ 13 ล้านเยน ถูกใจหล่อนเหลือเกิน ร้านนี้ดีไซน์ตัวเรือนของแหวนได้อย่างละเอียดและประณีต แหวนวงนี้ไม่ได้ล้อมเพชรแบบที่เราเห็นกันดาษดื่น เพชรขาวที่ล้อมมีสองชั้น แต่ละชั้นอยู่ห่างกันคนละระดับ อีกทั้งไม่ได้ล้อมติดตัวเพชรสีชมพูเม็ดกลาง เพชรที่ล้อมขนาดเล็กมากทำให้วงทั้งสองอ่อนช้อยมีมิติ

หล่อนรู้โดยไม่ต้องดูป้ายราคาว่าแหวนวงนี้อาจจะแพงที่สุดในร้านก็ได้ คนอื่นคงได้แต่มอง แต่คนอย่างนพนาศไม่เหมือนคนอื่นๆ หล่อนส่งภาษาของดูแหวน คนขายมองหน้าด้วยความสงสัยเล็กๆ แล้วหล่อนก็บรรจงสวมแหวนวงงามที่นิ้วนางข้างขวา นิ้วที่นพนาศชอบใช้สวมแหวนจนคนถามบ่อยๆ ว่านั่นคือแหวนแต่งงานรึเปล่า และส่วนใหญ่หล่อนก็ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า "แต่งกับแม่ค่ะ"

มีอยู่ครั้งนึงที่เจ้านายเก่าของหล่อนมองดูแหวนแล้วก็เปรยว่า "ใส่แหวนอย่างนี้ ใครจะกล้าจีบ" ก็คงจะเป็นเช่นนั้น แหวนเพชรขาวจั๊วรูปหัวใจพร้อมเพชรมาคีสองเม็ดประกบด้านข้าง ที่ยิ่งเชิดชูความเด่นของเพชรรูปหัวใจเม็ดนั่นได้เป็นอย่างดี

หล่อนบรรจงสวมแหวนเพชรสีชมพูวงนั้นและมองดูอย่างพอใจ แล้วหล่อนก็พูดเป็นภาษาอังกฤษกับคนขายว่า หล่อนจะหาคนมาซื้อแหวนวงนี้ให้หล่อน(I will find someone to buy it for me)แล้วนพนาศก็ฝันกลางวันเหมือนอย่างเคย หล่อนรู้ว่าทั้งณัฐ อรรคชาติ และศรุตต่างสามารถซื้อแหวนวงนี้ได้ หล่อนไม่กล้าไปท้าทายทั้งณัฐและอรรคชาติให้ซื้อแหวนให้หล่อน เพราะถ้าเขาคนใดคนหนึ่งซื้อแล้วหล่อนไม่ตกลงแต่งงานด้วย หล่อนคงมองหน้าใครไม่ติด หล่อนแค่อยากให้คนๆ นั้นคือศรุตคนเดียว

ยังไม่ถึงเวลาไปงานของพี่ฬารเพื่อนป้าเป้ ได้เวลาสะสางทำงานบ้าน หล่อนกวาดบ้าน ซักผ้าและเตรียมรีดผ้าตามปกติ ปกติที่คนทั่วไปไม่คิดว่าหล่อนทำได้ รวมทั้งการเพาะพันธุ์กล้วยไม้ด้วย ในสายตาของใครๆ หล่อนเป็นคุณหนู สาวซิ่ง ใจร้อน เวิร์คกิ้งวูแมน ใครจะไปเชื่อว่าหล่อนเลือกครอบครัว ทำงานบ้าน ทำกับข้าว และอาชีพสุดท้ายหลังจากลองมาหลากหลาย...เพาะกล้วยไม้

ถ้านพนาศได้สงบอกสงบใจด้วยการรีดผ้าที่กองพะเนินเทินทึกตั้งแต่หล่อนยังไม่ได้ไปญี่ปุ่นจนกระทั่งกลับมา เสื้อผ้าที่ต้องซักอีกสามโหลด นี่ดีเท่าไหร่ที่หล่อนมีเครื่องซักผ้า ไม่ต้องซักมืออย่างคนสมัยก่อน แค่หล่อนรีดผ้าก็กินเวลาเป็นวันๆ แล้ว นพนาศคงจะทำใจให้นิ่ง รอเวลาสุกงอมของทุกสิ่งทุกอย่าง บางครั้งสาวใจร้อนอย่างหล่อนก็ต้องเป็นน้ำแข็งบ้างเหมือนกัน

ทุกครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดัง นพนาศอดไม่ได้ที่จะมีความหวังเล็กๆ ว่า ศรุตโทรมา...ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น: