วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

หรือว่าเป็นคู่...ชีวิต (8)

หล่อนไม่ได้รับสายพี่ณัฐมาสองวันแล้ว...

พี่ณัฐทั้งส่ง sms และโทรเข้ามา พี่เป้เกย์รุ่นใหญ่ผู้ที่ชอบใช้วาจาเชือดเฉือนสะใจบรรดากลุ่ม "ชายเหนือชาย" หาว่าหล่อน "โหด ใจดำ" พร้อมๆ กับให้ความเห็นเกี่ยวกับดาราที่ออกทีวีอยู่ ณ ตอนนั้นว่า "อีนี่สวยเหมือนกะหรี่เข้าไปทุกที" หล่อนไม่ได้สะใจไปกับคำพูดของพี่เป้ไปด้วยหรอก แต่จะทำไงได้ นพนาศก็รัก "ป้าเป้" อย่างที่ป้าเป็น เพราะป้าก็มีข้อดีอีกตั้งมากมาย

"โหด ใจดำ" หล่อนทวนคำ
"อาจจะจริงนะป้า แต่ถ้าโหดตอนนี้ มันน่าจะดีกว่าโหดอีกหกเดือนถัดไป หรืออีกปีนึงนะคะ ให้ทำไงได้ละป้า หนูอุตส่าห์ไม่ติดต่อไม่อะไรตั้งแต่ไปญี่ปุ่นกับแม่แล้ว คืนวันปีใหม่ หนูกลับมา พี่ณัฐทั้ง sms และก็โทรเข้ามา หนูก็ไม่รับ ต้องเป็นพี่บ๊อบแน่ๆ เลยที่โทรไปบอก ไม่งั้นตีหนึ่งกว่า พี่ณัฐไม่ออกมาหรอก" หล่อนพ่นๆๆ ตามสไตล์ของหล่อน

"เมื่อวาน พี่ณัฐก็โทรมา หนูก็ไม่รับ ป้าว่าหนูทำไงดีคะ" หล่อนถามเหมือนจะต้องการคำตอบ แต่ไม่... เพราะหล่อนเป็นคนตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่แล้วว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ อย่างไร ตอนที่หล่อนตัดสินใจลาออกจากงานที่สำนักงบประมาณ หล่อนก็ไม่เคยปรึกษาพ่อแม่ นพนาศเพียงแต่แจ้งให้ทราบหลังจากตัดสินใจไปแล้ว หล่อนเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว เป็นอย่างที่ศรุตว่าไม่มีผิด

ป้าเป้ก็ไม่ตอบ เหมือนรู้ว่าหล่อนก็ถามไปอย่างนั้นเอง

ไม่ใช่ว่าหล่อนจะไม่แคร์ความคิดเห็นของใครๆ หล่อนฟังทั้งหมดแต่เลือกเห็นด้วยเฉพาะที่ตรงกับการตัดสินใจของหล่อน

การใช้เวลาร่วมกันที่ญี่ปุ่นของนพนาศกับแม่ เวลาแห่งการสงบศึกซึ่งไม่ค่อยจะเกิดขึ้น หล่อนมีโอกาสได้เล่าให้แม่ฟังเกี่ยวกับชายที่เข้ามาพัวพันในชีวิต หล่อนต้องขยายความ ไม่เช่นนั้แม่ของหล่อนก็จะคิดว่าหล่อนหลงตัวเอง นพนาศเล่าอย่างยืดยาวจนน้องสาวหล่อนที่ต้องตื่นไปทำงานวันรุ่งขึ้นต้องเปิดประตูออกมาบอกว่า นอนไม่หลับ นพนาศถึงรู้ตัวว่าพูดดังและยืดยาวจนน้องสาวทนไม่ไหว

น้องสาวของหล่อนเป็นคนสงวนคำพูด อีกเรื่องที่ตรงข้ามกับนพนาศ น้องสาวของหล่อน นีรดา เป็นคนอดทน มีความเป็นส่วนตัวสูง วันหยุดช่วงคริสต์มาส ปีใหม่ แทนที่จะเป็นช่วงเวลาที่นีรดาได้ใช้ชีวิตอย่างที่เธอปรารถนา แต่การมาเยือนของนพนาศและแม่ของทั้งคู่ก็ทำให้เวลาส่วนตัวลดลงไปอีก พอนพนาศกับแม่กลับไป รูมเมทของนีรดาก็กลับมาพอดี นพนาศเข้าใจน้องสาวของหล่อนดีและก็แสดงให้น้องสาวรู้ว่าหล่อนเห็นใจเธอ

แม่ของนพนาศให้ความคิดเห็นเรื่องหนุ่มๆ ในชีวิตหล่อน เธอบอกให้ลูกสาวเลือกอรรคชาติ ผู้ชายที่ดูเหมือนจะไม่เคยอารมณ์เสียคนนั้น แต่นั่นเป็นตัวเลือกที่หล่อนตัดไปตั้งแต่ต้นแล้ว...

น้องเจนโทรมาก่อนที่นพนาศจะไปหาป้าเป้ หล่อนร้องไห้กับน้องเจนอีกแล้ว อันที่จริง หล่อนไม่เคยร้องไห้เพราะศรุตมาก่อน แม้ว่าความรู้สึกที่หล่อนมีต่อเขาจะสับเปลี่ยนเวียนวนระหว่างการฝันหวานและความหวาดหวั่น แต่หล่อนก็ไม่เคยเสียน้ำตา

หล่อนใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง ยามจินตนาการให้ความจริงเป็นดั่งฝัน หล่อนก็คิดว่าหล่อนจะทำอย่างไร มุขเด็ดที่หล่อนเพิ่งคิดได้ก็คือ ณ วันที่หล่อนได้ออกเดทกับเขา ถ้าหล่อนรวบรวมความกล้าได้มากพอ หล่อนจะบอกให้ศรุตทำท่ายอมแพ้ ยอมแพ้แบบที่ต้องยกมือขึ้นสองข้างเวลาที่ตำรวจเรียกให้ออกนอกรถ ยอมแพ้แบบที่หล่อนจะบอกให้เขายกมือขึ้นและกางนิ้วออกไปเหมือนอาการกลัวตำรวจอย่างที่สุด แล้วหล่อนก็จะกางมือของหล่อน ประสานกับมือของเขา รวบลงมาไว้ที่สะเอวของหล่อน พร้อมๆ กับเขย่งตัวโน้มเข้าไปกระซิบที่ข้างหูศรุตว่า "จะยอมแพ้ตลอดไปมั้ยคะ" แค่จินตนาการถึงเหตุการณ์นี้ หล่อนก็รีวายซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่รู้กี่ร้อยหน มันเป็นท่าเด็ดที่หล่อนภูมิใจเหลือหลาย ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้นก็สุดแล้วแต่เหตุการณ์จะพาไป

นพนาศร้องไห้เพราะหวาดหวั่น สิ่งที่หล่อนคิด ปรุงแต่ง ไม่ได้มีเหตุผลอะไรยืนยันทั้งสิ้น เป็นแต่เพียงความคิดคำนึงของหล่อน สิ่งที่ทำให้ความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก" เติบโต งอกเงย เมื่อใดที่หล่อนกลับเข้ามาอยู่ในโลกของความเป็นจริง โลกของเหตุผล หล่อนก็จะมีอารมณ์ซึมเศร้าเช่นที่เป็นเมื่อยามคุยโทรศัพท์กับน้องเจนวันนี้

นพนาศไม่ใช่คนที่ขาดประสบการณ์เรื่องรักๆ ใคร่ๆ หล่อนผ่านมามากต่อมาก มากจนหล่อนบอกตัวเองว่า หล่อนจะต้องจัดการมันอย่างคนมีสติ หล่อนค้นคว้าข้อมูลในอินเตอร์เน็ตอีกเช่นเคย วิธีจัดการกับผู้ชายเจ้าชู้ และอีกสารพัดเรื่องราวที่ควรทำยามหวั่นไหว หล่อนต้องให้อิสระกับเขา หล่อนต้องหากิจกรรมทำ อยู่กับเพื่อนฝูงพี่น้อง ไม่จับเจ่า เฝ้าคิดแต่เรื่องศรุตเช่นนี้ แล้วหล่อนก็ทำสิ่งที่ควรทำ

เมื่อวาน นพนาศบอกให้ป้าเป้พาไปบาร์เกย์

ไม่มีความคิดเห็น: