วันอังคารที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2553

ตั้งแต่เพลงบรรเลงจนถึงพ่อ

วันนี้แต่งอีก 9 เพลง ยังไม่รู้จะขายได้มั้ย แต่ให้กำลังใจตัวเองไว้ก่อน...

เมื่อวันก่อนแต่งได้ 15 เพลงคนข้างๆ ก็ตะลึงอึ้งงงไปแล้ว ฉันคงต้องแต่งได้ดีเข้าทีบ้างละน่า เมื่อวานได้อ่านเพลงเด็ดของฉัน ตาสว่างเลย เขาบอกว่าจะคัดไปให้คุณเล็ก บุษบา ดาวเรืองสัก 3 เพลง วันนี้ฉันเลยแต่ง แต่ง แต่ง เข้าไปอีก เอาให้เลือกเยอะๆ ถ้าผ่านก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี เหมือนงานสำเร็จไปครึ่งนึงแล้ว ^-^

วันนี้ไปหาหมอ สงสัยว่าฝันมากมายเหลือเกิน หมอถามสั้นๆ ว่าฝันดีรึเปล่า ฉันก็ตอบไปว่า ฝันว่าอภิสิทธิ์ผูกเน็คไทสีแดงอะค่ะ ก็ไม่เห็นหมอว่าอะไร เล่าตอนที่หงุดหงิดเกินเหตุตอนที่ขนหนังสือไปงานสัปดาห์หนังสือ อันที่จริงทำเองหมดก็ได้ แต่เมื่อให้คนอื่นทำก็ไม่น่าจะไปทำให้มันวุ่นวาย คนคิดว่าช่วยก็ดีไป คนหาว่าเราไปทำเพราะเขาทำไม่ได้เรื่องก็ไม่รู้จะว่ายังไง เฮ้อ!! เอาเป็นว่า ของที่มันรอแก้ตัวไม่ได้เราก็ต้องเอาให้แน่ว่างานมันดี คนจะไม่พอใจก็ต้องยอมรับ ได้อ่านข้อคิดธรรมะของหลวงปู่ทวด พระพุทธเจ้าท่านยังต้องสละราชสมบัติ แล้วเราจะเอามันทุกอย่างได้ยังไง ปล่อยๆ มันไปบ้างเถอะ ฉันเลยกลายเป็นผู้ร้ายเจ้าอารมณ์ไปซะนี่

แต่พอฉันเล่าว่าฉันจัดการเรื่องอีเมลที่ด่าฉันได้เป็นอย่างดี รู้เท่าทันอารมณ์สติคุมไหว ก็แสดงว่าฉันอยู่ในภาวะที่โอเคแล้ว ไม่เหมือนตอนที่ได้รับอีเมลจากพี่ร่วมวงการแล้วฉันเก็บไปคิด จนเรื่องอะไรเข้ามาก็น้ำตาไหลสะอึกสะอื้นจนเกือบจะไปทำงานใหญ่ไม่ทัน

กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องหาคนแก้ไขคือเรื่องคนข้างตัวนี่เอง เอ่อ อันนี้ ค่อนข้างจะเรตเอ็กซ์ แต่ในเมื่อแปลเย็บถากปากร้ายได้ เรื่องนี้สบายมาก 555

อันเนื่องด้วยผลข้างเคียงของยาทำให้ฉันไม่พิสมัยเรื่องที่ผู้ชายเขาพิสมัยกัน คนข้างๆ ย้ำก่อนเดินเข้าห้องหาหมอ อย่าลืมถามเรื่องนั้นนะ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องนี้หรอก แต่เล่าโน่นเล่านี้ให้หมอฟังก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาและต้องอดท้นอดทนคือเรื่องนี้นี่เอง

หลังจากร่ายยาวทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หมอก็จดบันทึกไปบ้างแล้วก็นั่งฟังต่อไป ในใจอาจจะคิดว่า คนไข้ของฉันคนนี้นี่มันนั่งรถไฟเหาะตีลังกาทุกครั้งที่มาหาฉันจริงๆ แล้วคุณหมอก็ทำหน้า โอ้โห โอ้โฮ เป็นพักๆ เพื่อลดผลข้างเคียงของยาที่ฉันจะไม่ระริกระรี้กับกิจกรรมก่อนนอน คุณหมอเสนอทางเลือกให้เพิ่มยาตัวนี้ ลดยาตัวนั้น และถ้าจะให้ผลโดยพลันก็ต้องกินเพิ่มอีกตัว ตัวนี้ออกฤทธิ์ช้า ลดอีกตัวก่อนแล้วกินพร้อมๆ กับตัวใหม่ กินไปสัก 2 อาทิตย์แล้วค่อยหยุดตัวเดิม เครื่องมันจะได้ไม่เดินสะดุด

ยาใหม่ต้องกินวันละสามเวลาก่อนอาหาร ข้อดีเยอะกว่า แถมสร้างเส้นใยประสาทด้วย ยานี้ปกติให้คนแก่กิน พอฟังไปท่าทางกินแล้วจะฉลาดขึ้น แผนเดิมที่กะจะให้เขาเลือกเองว่าจะให้ฉันกินยาแบบไหน(แต่ต้องเลือกให้ตรงกับที่ฉันอยากได้) ก็เป็นอันจบ ฉันก็ต้องเลือกทางใหม่อยู่แล้ว แต่ไม่บอกทั้งหมด สรุปแล้วเขาก็เลือกอย่างที่ฉันจะให้เลือกอยู่ดีนั่นแหละ แถมผลักภาระว่าซื้อให้กินเองนะ ฉันไม่จ่ายตังค์หรอก นั่งคำนวณวันละสามเม็ด สิบวันก็สามสิบเม็ด เดือนนึึงก็เก้าสิบเม็ด เม็ดละสิบกว่าบาทก็ประมาณพันนึง แล้วเขาก็รำพึง โธ่ ไปกินเหล้ากินเบียร์ กินอาหารสุดโปรดของฉันแพงกว่านี้ตั้งเยอะ แค่พันเดียวเพื่อจะได้สุขสมพี่แกก็ไม่ขัดข้องแต่ประการใด เฮ้อ! ตรูละเซ็ง ต้องทำหน้าที่อีกแระ

จริงๆ อยู่เป็นคู่ก็ดีกว่าอยู่คนเดียวตั้งเยอะแน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเปลี่ยนความคิดในเรื่องนี้ไปได้ ครั้งนี้ฉันคงใช้สติมากๆ เพราะโดนเป็นห่วง บ้างสาปแช่งจากสารพัดทาง ก็เลยทำให้เซฟตัวเองมากขึ้น อะไรไม่อยากปรับก็ไม่ต้องปรัับ ไม่งั้นที่ผ่านๆ มา คนก็ไม่รู้ว่าที่ฉันทำอยู่น่ะ ฉันไม่ได้ชอบหรอกนะ

ตอนนี้ฉันไม่ต้องไปมีสังคมกลางคืนให้มันมากมาย พบปะเจอหน้าผู้คนก็ไม่ต้อง ค่าใช้จ่ายก็น้อยลง หน้าตาผิวพรรณก็ดีขึ้น ช่วงหลังๆ นี่ไม่มีเสียงโทรศัพท์มารบกวนใจ ยังนึกถึงวันที่ฉันรู้สึกดีใจที่ลืมโทรศัพท์ไว้ในรถทั้งวันอยู่เลย กลับมามีชีวิตสงบไม่ต้องวุ่นวายอะไรกับใครมากมาย

แล้วก็แปลกที่อยู่กับใครสองคนทั้งวันทั้งคืนฉันก็ไม่เดือดร้อน แต่นั้นก็เป็นเพราะฉันมีอะไรให้ทำตลอดอยู่แล้ว เขาต่างหากที่อยากขโมยเวลาหน้าคอมฯ ของฉันไป สักอาทิตย์สองอาทิตย์เรากะกันว่า จะไปหาพ่อแล้วให้เขาเอาปืนสุดโปรดไปด้วย ไม่ได้เอาไปทำอะไรพ่อฉันหรอกนะ

ผู้ชายสองคนครั้งก่อนเขาคุยกันเรื่องปืนและอีกสารพัดเรื่องที่ชอบเหมือนๆ กัน ฉันจะให้คนข้างๆ เอาปืนไปโชว์พ่อฉันแล้วให้ชวนพ่อฉันออกมายิงปืนอีก อย่าน้อยเขาก็จะได้เคลื่อนที่ไปไหนมาไหนบ้าง ได้ออกกำลังกาย ได้คุยกับคนที่คอเดียวกัน นี่ถ้าพ่อรู้ว่าคนข้างๆ เป็นแฟนรักยืนยงรถอัลฟ่า ก็มีอันได้คุยกันอีกยาว ไหนจะพอร์ชอีก ทูตสันทวไมตรีคนนี้ดีที่สุดแล้ว ฉันคิดว่าพ่อน่าจะมีความสุขกับลูกเขยคนนี้...ทีเดียวเชียวล่ะ 555

ไม่มีความคิดเห็น: