วันจันทร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2552

เด็กๆ คงช่วยฉันไว้...

ถ้าเธอได้อ่านบล้อกของฉันก่อนหน้านี้ คงจะเห็นว่าฉันนำเรื่องราวของแม่ต้อยมาเผยแพร่ที่นี่ เผื่อว่าใครได้อ่านอาจจะมีโอกาสได้ช่วยเหลือเด็กๆ ที่อนาคตมืดมนเหล่านั้น อย่างที่ฉันเขียนไว้ ว่าฉันลุกขึ้นมาบริจาคเงินทางอินเตอร์เน็ต...เป็นการเริ่มวันใหม่ที่ดีมีคุณค่าต่อคนอื่น ฉันจัดเสื้อผ้าได้หนึ่งลังกับหนึ่งกระเป๋าเตรียมไปมอบให้เด็กๆ เหล่านั้น ถึงกับเปรยๆ กับพี่คนสนิทว่า อาจจะขับรถไปถึงยโสธร ถือว่าไปเที่ยวซะด้วยเลยทีเดียว

ณ วันเดียวกันนั้นเอง มีเรื่องของเด็กๆ เข้ามาเกี่ยวพันกับฉันทั้งตอนเช้า และตอนค่ำหลังตัดสินใจอะไรบางอย่างเพื่อให้ตัวเองพ้นทุกข์ เรื่องตอนเช้า ฉันเขียนเล่าให้อ่านกันแล้ว ส่วนตอนค่ำ อยู่ดีๆ พี่ที่คบหากันมาก็บอกกับฉันว่าจะดูดวงให้ แต่การดูดวงโดยใช้ไพ่ของพี่แกไม่เหมือนที่ใดๆ ที่ฉันเคยไปดูมา ไพ่สีฟ้ามีข้อความเป็นตัวอักษร...เป็นเรื่องเป็นราวทีเดียว พี่ให้ฉันแบ่งออกเป็นสิบกอง อธิษฐานว่าอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร 10 ข้อ ใช้มือซ้ายตัดไพ่จนพอใจ ว่าแล้วพี่ของฉันก็เอาเครื่องมือแปลกไม่เหมือนใครออกมาจากกระเป๋าเป้ เป็นตะเกียบสีไม้เข้มหนึ่งข้าง (ฉันไม่ค่อยแน่ใจเรื่องลักษณะนามของตะเกียบข้างเดียวมาก่อน ของที่อยู่เป็นคู่เสมอ ไม่เคยคิดว่าเมื่ออยู่ลำพังข้างเดียวก็เกิดประโยชน์ในอีกแง่มุมหนึ่ง) สร้อยสแตนเลสเงินยาวหนึ่งไม้บรรทัดเห็นจะได้ ปลายสร้อยเป็นแก้วเจียระไนหรือแร่ธาตุอะไรซักอย่างที่มีลักษณะขาวใส พี่คนนี้พันปลายสร้อยอีกด้านไปที่ปลายตะเกียบ มองดูเหมือนเบ็ดตกปลาที่มีเหยื่อชิ้นเบ้อเริ่มเมื่อมองสัดส่วนของคันเบ็ด สายเอ็นและเหยื่อยักษ์ชิ้นนี้

เธอเชื่อมั้ยว่าพี่เค้าถือคันเบ็ดลอยอยู่เหนือไพ่ทุกใบในแต่ละกอง และก็แล้วแต่ว่าจะอธิษฐานให้แก้วพิเศษนี้หมุนไปทางใด เช่น ถ้าหมุนทวนเข็มนาฬิกาถือว่าเป็นไพ่ที่จะให้คำตอบกับคำถามที่ฉันถาม เธอคิดดู ในแต่ละกองมีไพ่ประมาณ 20 ใบ พี่เค้าต้องถือคันเบ็ดอยู่นานแค่ไหน ถึงจะทำนายทายทักเรื่องต่างๆ ให้ฉันได้ เรื่องแรกก็คือเรื่องที่ฉันเพิ่งตัดสินใจนั่นแหละ แล้วคำตอบก็พูดในเรื่องเดียวกัน การที่ฉันได้มีโอกาส "เกิดใหม่" เมื่อดอกไม้บาน เมื่อได้บริจาคเงิน เมื่อได้ตัดสินใจอะไรโดยเด็ดขาด ทำให้จิตใจของฉันผ่องแผ่ว ไม่น่าเชื่อว่าไม่มีน้ำตาไหลแม้แต่สักหยดเดียว ฉันรู้สึกดีจังที่เข้มแข็งขึ้นมาก ไม่มีใครจะมาทำลายการนับถือตัวเอง (Self-Esteem) ของเราได้ นอกจากเราจะอนุญาตให้ใครเข้ามามีอำนาจเหนือจิตใจของเรา นี่น่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่า ความล้มเหลว ความผิดพลาดทำให้เราแกร่งขึ้น สามารถเผชิญหน้ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา

คำถามที่สอง สามและสี่ ได้รับคำตอบแล้ว แม้ว่าคำตอบคือความคลุมเครือ คำตอบไม่ได้ให้ความกระจ่าง แต่คำตอบที่ได้ก็แนะนำให้ฉันปฏิบัติตนอย่างไร จวบจนมาคำถามสุดท้ายที่ฉันถามไปว่า ฉันจะสามารถมีอิสระทางการเงินได้หรือไม่ เมื่อใด มีไพ่อยู่หนึ่งใบที่พอเอาแก้วพิเศษนี้ไปจ่ออยู่ด้านบน แก้วไม่ไหวติง ฉันได้รู้จากคำถามก่อนหน้าว่า ไพ่จำพวกนี้ มีความหมายพิเศษ แปลว่าไพ่ไม่บอก ส่วนใบที่แก้วแกว่งแรงที่สุดตามทิศทางที่อธิษฐานไว้ให้ความหมายที่ฉันพอจำได้เลาๆ ว่า ฉันมีความสามารถ แต่ไพ่ก็ยังไม่ได้ตอบอะไรชัดเจน การที่คนเรามีความสามารถไม่ได้แปลว่าจะประสบความสำเร็จ หรือได้ดอกผลจากความสามารถที่มี พอถึงคราวที่เปิดไพ่ที่แก้วไม่เคลื่อนไหว หยุดนิ่งอยู่เหนือไพ่ พอพลิกหงายขึ้นมา ข้อความในไพ่กล่าวว่า

....แม่ฆ่าหนูทำไม....

ณ ตอนนี้ ฉันยังขนลุกไม่หาย ไม่น่าเชื่อ แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่า เป็นอุปทานหรือมีสิ่งลี้ลับใดก่อให้เกิดอาการเช่นนี้ ลำพังตัวฉันเอง ตีความไม่ได้หรอก ฉันเองไม่เคยฆ่าใคร พี่ที่ทำนายให้ฉันบอกว่า ฉันโชคดีนะ ที่ได้ไพ่ใบนี้ หมายความว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ให้ฉันทำบุญกับเด็กๆ ให้เยอะๆ

นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า เด็กๆ คงได้ช่วยฉันเอาไว้แน่ๆ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอะไรที่ลี้ลับมาบอกมาเตือนฉันเสมอมา ต้องขอบคุณกรรมดีที่ฉันได้ทำไว้ในชาติปางก่อนหรือสิ่งที่ฉันเพิ่งทำในชาตินี้ ที่ดลบันดาลให้ฉันรอดพ้นจากคนพาล คนไม่ดีทั้งหลาย

ฉันจะยังคงทำความดีเพื่อไถ่บาปกรรมที่ฉันทำไว้ไม่ว่าจะในภพชาติใด กรรมที่ฉันมีกับหลายๆ คน ได้ชดใช้ไปแล้วในชาตินี้ ก็ขออย่าให้มีเวรมีกรรมต่อกันและกันเลย ฉันขอให้คนที่มีกรรมพัวพันกับฉันได้พบแต่สิ่งที่ดีในชีวิต แม้ว่าการเทน้ำในที่ดอนจะทำได้ยาก ฉันก็ขอเป็นคนนึงที่จะฝืนธรรมชาติ แผ่เมตตาให้ศัตรู คนพาล ที่สร้างความเสียหาย ชอกช้ำให้กับฉัน ขอให้เลิกแล้วต่อกัน ต่างพบเจอในสิ่งที่ดีๆ ทำแต่สิ่งดี ไม่เบียดเบียนคนอื่นอีกต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: